Page 25 - 067
P. 25
11
ั
การศึกษานี้สนใจที่จะน้าถังปฏิกรณ์ชนิดป้อน (กึ่ง) ต่อเนื่องมาพฒนาเป็นระบบผลิตแก๊ส
ชีวภาพจากของเสียอินทรีย์ ทั้งนี้เนื่องจากถังปฏิกรณ์ป้อน (กึ่ง) ต่อเนื่องจะท้างานโดยขึ้นอยู่กับสมบัติ
ของสารป้อนเป็นหลัก ถ้าหากสารป้อนมีลักษณะเป็นของแข็งและของแข็งแขวนลอย ถังปฏิกรณ์ที่ใช้
จะเป็นชนิดถังกวนแบบต่อเนื่อง (Continuously stirred tank reactor: CSTR) ซึ่งเป็นถังปฏิกรณ์ที่
มีการกวนผสมภายในถังตลอดเวลาท้าให้จุลินทรีย์ได้สัมผัสกับสารอินทรีย์อย่างทั่วถึง ส่งผลให้ช่วยเพม
ิ่
ความสามารถในการผลิตแก๊สชีวภาพ (Boe, 2005) ถังปฏิกรณ์อกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมและมี
ี
การติดตั้งในระดับเชิงพาณิชย์ ส้าหรับผลิตแก๊สชีวภาพในโรงงานสกัดน้้ามันปาล์มได้แก่ ถังปฏิกรณ์
แบบท่อไหล (Plug flow reactor: PFR) มีลักษณะเป็นบ่อแบบราง ที่มีการไหลในแนวระดับโดยให้มี
การผสมในแนวตั้งฉากกับการไหลของน้้า ถังปฏิกรณ์ PFR สามารถควบคุมให้ Solid retention time
(SRT) มีค่าสูงกว่า Hydraulic retention time (HRT) ท้าให้ไม่เกิดปัญหาการหลุดออกจากระบบของ
ิ
ั
จุลินทรีย์ เป็นผลให้สามารถออกแบบให้ถังปฏิกรณ์มีขนาดและสามารถรับอตราบรรทุกสารอนทรีย์
และความเข้มข้นสารอินทรีย์ได้สูง (กรมโรงงานอุตสาหกรรม, 2553)
2.1.6 เถ้าปาล์ม
กระบวนการผลิตน้้ามันปาล์มดิบ Yin et al., 2008 กล่าวว่ามีขั้นตอนที่ต้องใช้ไอน้้าคือ
การนึ่งปาล์มและการสกัดน้้ามัน โดยใช้เส้นใยหรือทะลายปาล์มเปล่าเป็นเชื้อเพลิงที่อณหภูมิประมาณ
ุ
้
800 C เถ้าที่ได้จากการเผาไหม้เป็นองค์ประกอบของสารอนินทรีย์จากการศึกษาของ Lahijani et al.
(2013) เถ้าที่ได้เป็นสารประกอบโลหะออกไซด์ โดยสัดส่วนของโลหะออกไซด์ขึ้นอยู่กับปริมาณของ
เส้นใยหรือทะลายปาล์มเปล่าที่ใช้เนื่องจากแต่ละส่วนมีองค์ประกอบของสารอนินทรีย์ต่างกัน
องค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นออกไซด์ของโพแทสเซียม Madhiyanon et al. (2012) รายงาน
องค์ประกอบของเถ้าจากทะลายปาล์มเปล่าดังนี้ K O (55.48%), SiO (12.12%), CaO (9.65%),
2
2
P O (3.58%), MgO (1.90%), Al O (0.26%) และ Na O (0.09%) นอกจากนี้ Yin et al. (2008)
2 5
2
2 3
รายงานว่าจากการวิเคราะห์เถ้าจากทะลายปาล์มเปล่าพบองค์ประกอบของโลหะหนักเช่น Cd, Pb
และ Ni น้อยกว่า 0.2 mg/L ซึ่งเป็นความเข้มข้นที่น้อยไม่เป็นพิษ
ส้าหรับค่าความเป็นกรดด่างที่ได้จากการละลาย เมื่อน้าเถ้าไปละลายน้้าได้สารละลายที่มี
ค่า pH มากกว่า 10 สารประกอบ K O และ Na O จะกลายเป็น KOH และ NaOH ซึ่งเป็นด่างแก่
2
2
P O เปลี่ยนเป็น H PO CaO และ MgO ละลายน้้าได้เล็กน้อย ในขณะที่มีออกไซด์บางตัวไม่ละลาย
3
4
2 5
น้้าเช่น SiO และ Al O ดังนั้นจึงเป็นแนวคิดที่น่าสนใจในการน้าเถ้าปาล์มเตรียมสารละลายด่างเพอ
ื่
2
2 3
ใช้เป็นสารละลายบัพเฟอร์
2.1.7 หลักการวิเคราะห์เชื้อด้วย PCR-DGGE
Polymerase chain reaction-denaturing gradient gel electrophoresis (PCR-
DGGE) เป็นเทคนิคที่ใช้ในการศึกษาลักษณะโครงสร้างของกลุ่มประชากรจุลินทรีย์ผสม โดยขั้นตอน
ิ่
ส้าหรับการศึกษานี้ มีขั้นหลักอยู่ 3 ขั้นตอน คือการสกัด DNA การเพมจ้านวน DNA และการทดสอบ
หาโครงสร้างของเชื้อด้วยเทคนิค DGGE เริ่มต้นการวิเคราะห์ต้องด้าเนินการสกัด DNA ของเชื้อที่ผสม
หรือปนเปื้อนอยู่ในตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์เชื้อที่ผสมอยู่ในน้้าหมักผสมที่อยู่ในถังหมักหรือน้้าหมัก