Page 16 - 067
P. 16

2






                       ทิ้งโรงงานสกัดน้้ามันปาล์มเสียเพยงอย่างเดียวซึ่งเป็นระบบการย่อยสลายซับสเตรตเดี่ยว (Single
                                                   ี
                       substrate  digestion) ขาดสารอาหารหลัก (Macronutrient) เพอใช้ในการเจริญเติบโตของแบคทีเรียคือ
                                                                          ื่
                       ไนโตรเจนและฟอสฟอรัส ซึ่งส่งผลให้มีองค์ประกอบไม่เหมาะต่อการผลิตแก๊สชีวภาพ นอกจากนี้แล้ว
                       น้้าทิ้งโรงงานน้้ามันปาล์มมีค่าความเป็นกรดสูงซึ่งส่งผลให้ระบบถังปฏิกรณ์ไม่เสถียร (O-Thong

                       et  al.,  2008) โดย Chin  et  al.  (2013) ประเมนผลผลิตได้มีเทนจากน้้าทิ้งโรงงานสกัดน้้ามันปาล์ม
                                                                ิ
                       ประมาณ 15.5  L-CH /L-POME  อย่างไรก็ตาม Angelidaki  and  Ellegaard  (2003)  ได้ประเมิน
                                         4
                                                            ๊
                       จุดคุ้มทุนทางเศรษฐศาสตร์ส้าหรับการผลิตแกสชีวภาพที่ผลผลิตได้มีเทนสูงกว่า 20  L-CH /  L substrate
                                                                                                4
                                                    ั
                       ดังนั้นจึงจ้าเป็นต้องมีการวิจัยและพฒนาเพอเพมประสิทธิภาพกระบวนการผลิตแก๊สชีวภาพจากน้้าทิ้ง
                                                          ื่
                                                             ิ่
                       โรงงานสกัดน้้ามันปาล์มเพื่อให้ได้ผลผลิตได้มีเทนถึงจุดคุ้มทุนทางเศรษฐศาสตร์ดังกล่าว
                                                 ิ่
                              แนวทางหลักในการเพมประสิทธิภาพการผลิตแก๊สชีวภาพจากจากน้้าทิ้งโรงงานสกัดน้้ามัน
                       ปาล์มโดยได้แก่การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการย่อยสลายร่วมแบบไร้อากาศ (Anaerobic co-digestion)
                                              ิ
                       ซึ่งเป็นกระบวนการที่มีสารอนทรีย์สองชนิดหรือมากกว่า (Co-substrates)  เกิดการย่อยสลายในถัง
                                                                                                  ิ
                       ปฏิกรณ์ในเวลาเดียวกัน เทคโนโลยีการผลิตแก๊สชีวภาพจากการย่อยสลายร่วมของสารอนทรีย์จะ
                                ิ่
                                                                                                    ิ
                       สามารถเพมประสิทธิภาพการผลิตแก๊สชีวภาพได้สูงกว่าการย่อยสลายแบบไร้อากาศของสารอนทรีย์
                                                                       ั
                       เพยงชนิดเดียว เนื่องจากการย่อยสลายร่วมจะเกิดปฏิสัมพนธ์เชิงบวก  (Positive  synergisms) ต่อ
                         ี
                                                                      ิ
                                                          ิ่
                       จุลินทรีย์ในระบบการย่อยสลายและช่วยเพมปริมาณสารอนทรีย์ที่สามารถถูกย่อยสลายด้วยจุลินทรีย์
                       ปรับสัดส่วนสารอาหารหลักของ เช่นอตราส่วนระหว่างคาร์บอนต่อไนโตรเจน (C:N)  และอัตราส่วน
                                                      ั
                       ระหว่างคาร์บอนต่อฟอสฟอรัส (C:P) ให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ลดการเกิดสภาวะ
                       กรดเฉียบพลันภายในถังปฏิกรณ์เนื่องจากมี Buffering  capacity  เพมขึ้น และช่วยเจือจางความ
                                                                                  ิ่
                       เข้มข้นของสารพษ (Toxic  compounds)  (Angelidaki  and  Ellegaard  (2003);  Costa  et  al.,
                                     ิ
                       2012; Mata-Alvarez et al., 2000) การเพมประสิทธิภาพการผลิตแก๊สชีวภาพโดยเทคโนโลยีการ
                                                             ิ่
                                                            ั
                       ย่อยสลายร่วมเป็นเป้าหมายหนึ่งในแผนการพฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกร้อยละ 25
                       ในอีก 10 ปี ข้างหน้า (2555-2564)

                              พรรณไม้ใต้น้้า (Submerged  macrophytes)  ที่ส้าคัญได้แก่สาหร่ายขนาดใหญ่ (Macro  algae)
                       และพืชใต้น้้า (Submerged plants) ก้าลังได้รับความสนใจฐานะชีวมวลน้้าเพอการผลิตพลังงานรุ่นที่ 3
                                                                                     ื่
                       ที่ให้พลังงานมากกว่าชีวมวลบกถึง 6-12 เท่า เนื่องจากส่วนประกอบภายในโครงสร้างของพรรณไม้ใต้
                       น้้าที่ประกอบด้วยเซลลูโลสในปริมาณที่ไม่สูงเกินและมีองค์ประกอบของลิกนินต่้าหรือไม่มีเลย ท้าให้

                       จุลินทรีย์สามารถย่อยสลายได้ง่ายกว่า (Vergara–Fernandez et al.; 2008, Koyama et al., 2014)
                                                                                            ื
                                                                                                  ื่
                             ั
                        ี
                       อกทั้งอตราส่วนระหว่างคาร์บอนต่อไนโตรเจนที่อยู่ในระดับต่้าเมื่อเปรียบเทียบกับพชชนิดอน ๆ โดย
                       สาหร่ายน้้าจืดจะมีอตราส่วนระหว่างคาร์บอนกับไนโตรเจนมีค่าเท่ากับ 10.2 (Sialveet  al.,  2009)
                                       ั
                                                            ั
                       โดยทั่วไปแล้วในระบบการผลิตแก๊สชีวภาพ อตราส่วนระหว่างคาร์บอนต่อไนโตรเจน (C:N) ควรมีค่า
                                             ั
                       ระหว่าง 15–30 ถ้าหากมีอตราส่วนระหว่างคาร์บอนต่อไนโตรเจนมากเกินไปจะท้าให้เกิดการยับยั้ง
                       การท้างานของแบคทีเรีย (Weiland,  2010)  ดังนั้นการน้าสาหร่ายน้้าจืดขนาดใหญ่บางชนิดที่ไม่ได้
                           ื
                       เป็นพชอาหารหลักมาเป็นสับสเตรตร่วมกับน้้าทิ้งโรงงานสกัดน้้ามันปาล์มที่มีสัดส่วนธาตุอาหาร  C:N
                                                         ื่
                       สูงกว่า 30 (Mamimin et al., 2012) เพอปรับสัดส่วนธาตุอาหาร C:N ให้เหมาะสมส้าหรับการผลิต
                       แก๊สชีวภาพโดยกระบวนการย่อยสลายแบบไร้อากาศจึงเป็นทางเลือกที่มีศักยภาพ นอกจากนี้แล้ว
   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21