Page 84 - 054
P. 84
63
็
ี
ื่
ิ
ิ
ื
ี่
al- Tabary, 1992:79)เพราะการทท าให้ทายาทเสยสทธเนองจากการท าพินัยกรรมนั้นถอว่าเปน
ผลรายมากมายแก่ผู้ท าพินัยกรรมเอง
้
่
ึ
ี่
่
ุ
ิ
ี
ท่านอาล บตร อบฏอลบ ได้ไปเยี่ยมชายคนหนงทก าลังปวย ชายผู้นั้นได้กล่าว
ี
กับท่านอาล ี ว่า ฉันต้องการท าพินัยกรรม ท่านอาล ี ได้กล่าวว่า
ِ ِ
(( ا كدا لول كا لام عدف ً لاام عدت ا لَ ،لا))
ا ا ْ اا
ا ْ اا ْ
ا
(٢٦٧٢ : ٦٧٧١ ،يمرادلا هجرخأ)
ิ
ิ
ความว่า “ไม่ได้ เจ้าไม่ได้ท้งทรพย์สนไว้มากมาย จงท้ง
ิ
ั
ทรพย์สนทท่านมไว้ให้บตรของท่าน”
ั
ิ
ี่
ี
ุ
(al-Darimi, 1966: 3192)
ื่
ั
2.2.5 เงอนไขในการท าพินยกรรมในอิสลาม
ื่
ี
ื
ี
การท าพินัยกรรมนั้นจะต้องมเงอนไขดังน้ คอ
2.2.5.1 ผู้ท าพินัยกรรม
ั
2.2.5.2 ผู้รบพินัยกรรม
ี่
ั
ิ
2.2.5.3 ทรพย์สนทจะท าพินัยกรรม
ุ
ั
2.2.5.4 การเสนอและการตอบรบ (อับดลวะฮาบ เฮาวาส, 2555:247-248)
ั
2.2.5.1. ผูท าพินยกรรม
้
ิ
ู
ี
ี่
ู
ั
ี
ี่
ิ
ี่
ื
ผู้ท าพินัยกรรม คอ ผู้ทมทรพย์สนทจะท าพินัยกรรมด้วยวิธทถกต้อง โดยมได้ถก
ี
ี่
ั
บังคับให้กระท า (Ahmad Rofiq, 2003: 450) ดังนั้นผู้ทมทรพย์สนเพียงพอก็สามารถท าพินัยกรรมได้
ิ
ิ
ั
ี
ั
ี่
้
จากส่วนหนงของทรพย์สนนั้น แต่จะต้องไม่ท าให้ทายาททมสทธ์ ิรบมรดกนั้นเดอดรอน ส่วนการ
ื
่
ึ
ิ
ี่
ี
ื
ู
ท าพินัยกรรมทถกบบบังคับ หรอไม่ได้ตั้งเจตนาทจะกระท าถอว่าพินัยกรรมนั้นใช้ไม่ได้ นักวิชาการ
ี่
ื
ื่
ิ
ิ
ึ
มัซฮับชาฟอย์ได้ระบถงการท าพินัยกรรมนั้นจะต้องด าเนนตามเงอนไข โดยทผู้ท าพินัยกรรมนั้น
ุ
ี่
ี
ิ
ู
ุ
จะต้องบรรลนตภาวะ มสตสัมปชัญญะ อสระปราศจากการถกบังคับ และพินัยกรรมนั้นจะใช้ไม่ได้
ี
ิ
ิ
ิ
ี่
หากพินัยกรรมนั้นกระท าโดยเดกทยังไรเดยงสา(Abdul al–Aziz Dahlah, 1999: 1927) ดังนั้นผู้ท า
ี
้
็
ื่
็
พินัยกรรมจ าเปนต้องมเงอนไขดังต่อไปน้
ี
ี
ั
1. มสตปญญาสมบรณ เปนเงอนไขทมความจ าเปน โดยเฉพาะเฉพาะอย่างยิ่งใน
ี
์
ู
็
ิ
ี
ื่
็
ี่
ื
ิ
เรองการยกให้ และการบรจาคประเภทต่างๆ ดังนั้นการท าพินัยกรรมของคนวิกลจรต สตฟ่นเฟอน
ื่
ิ
ิ
ั