Page 69 - 052
P. 69
54
ั
ั
หนาโคงมากกว/า และให
ความรู
สึกหนักแน/กว/า บางครั้งจึงนิยมใช
ประดบส/วนสําคญของอลกรอาน
ุ
ั
ิ
อักษรแบบเตากีได
พัฒนาสมบูรณ แบบในปลายศตวรรษ 11 โดยอบนุ อลกอเส็ม (’Ibn al-Qāsim) ซง ึ่
ั
เป0นศษย ของอบนุ อลเบาวาบ (’Ibn al-Bawwab) ระหว/างปลายศตวรรษ 15 เตากีเป0นแบบที่นิยม
ั
ิ
ิ
ุ
ั
ี
ิ
ี่
/
/
ั
แพร/หลายกนมากในตรก และไดพฒนาแบบ เกดความหลากหลายมากทสุดในประเทศนี้ แตไมไดรับ
9
ความนิยมในหมู/ชาวอาหรับ
ภาพที่ 14
อักษรเตาเกยะ
ี
ที่มา : https://ar.wikipedia.org/wiki/%D8%AE%D8%B7_%D8%B9%D8
ั
อกษรแบบรุกอะฮ (Ruq‘ah) เป0นแบบแยกย/อย มาจากแบบนัสคฺ
ฺ
ิ
ั
ั
และษุลูษ ลักษณะรูปทรงค/อนไปทางเรขาคณต และจะเล/นตวัดหางส/ วนปลายของอกษรใกล
เคยงกบ
ี
ิ
ั
แบบษุลูษมาก เป0นตัวหนังสือ ที่ใช
เป0นสื่อในชีวิตประจําวัน นิยมกันมาก ในกลุ/มนักประดษฐ อกษรชาว
ออตโตมาน (Ottoman) พัฒนาสมบูรณ แบบโดย ชัยคฺ หะมะดุลลอฮฺ อัลอะมาสีย (Shaykh
Ḥamadullahal-’Amāsīy) และไดรับความนิยมอย/างแพร/หลาย ปoจจุบันกลายเป0นแบบอกษรทชาว
ี่
ั
อาหรับ นิยมเขียนในชีวิตประจําวันมากที่สุด
ภาพที่ 15
อักษรรุกอะฮ ฺ
ที่มา : https://ar.wikipedia.org/wiki/%D8%AE%D8%B7_%D8%B9%D8
ุ
อกษรแบบษลูษ (Thuluth) มีลักษณะแข็งนิ่งขาดลีลาการ
ั
ุ
ี่
ื่
ุ
/
ั้
เคลื่อนไหวใช
สําหรับการประดบตกแตทงในตารา และจารึกบนวัสดอนๆ แบบษลูษทในการประดบ
ั
ั
ํ
ิ
ู
ตกแต/ง ได
รับการพัฒนา โดยอบนุ อลเบาวาบ และยากต เป0นรูปแบบอกษรทนิยมใช
ตกแตงคมภีร อล
ั
ั
/
ั
ี่
ั
ุ
ั
/
ื่
กรอาน และคมภีร ทางศาสนา โดยจะใช
ตกแตงหัวเรื่อง ชื่อบท และส/วนประดบอนๆ แตไมนิยมใช
/
/
ั
10
อักษรษุลูษลอกทั้งหมดเนื่องจากยากตอการเขียนและใช
เวลานาน
/
9 มูหัมมัดมันซูร หมัดเรvาะ, 2551 : 98
10 _________________, 2551 : 99