Page 48 - 052
P. 48
33
2.3 แนวคิดเกี่ยวกับการแต-งกาย
เครื่องแตงกายเป)นสิ่งมนุษย1 นํามาใช+เป)นเครื่องนุ มห มร างกาย ในอดตมนุษย1ไดแตง
+
ี
+
+
ิ
+
ิ
กาย โดยใช+เครื่องห อหุ+มร างกายจากธรรมชาต เช น ใบไม ใบหญา หนังสัตว1 ขนนก ดน สี เป)นตน
มนุษย1บางเผ าพนธุ1 รู+จักการใช+สีจากพชนํามาเขยน หรอสัก เพอเป)นเครื่องตกแตงแทนการห อหุ+ม
ื่
ั
ื
ี
ื
ี่
ั
ิ
ร างกายตอมามนุษย1เรียนรู+วิธีทจะดดแปลง การใช+เครื่องห อหุ+มร างกายจากธรรมชาตให+เหมาะสม
ั
ี่
ั
ั
+
และสะดวกตอการแตงกายตามลําดบ เช น ผูก มด สาน ถก ทอ อด เป)นตน มาจนถงในทสุดรู+จักการ
ั
ึ
ใช+วิธีตัด และเย็บจนกลายเป)นเทคโนโลยี
ี่
ในทางกายภาพมนุษย1เป)นสิ่งทถกสร+างทออนแอ เพราะมภูมตานทานทางธรรมชาต ิ
ู
ี่
+
ิ
ี
ื่
็
น+อยกว าสัตว1 และผิวหนังของมนุษย1กบอกบาง จึงจําเป)นตองมสิ่งปกปดร างกาย เพอดารงชีวิตอยู ได +
+
ํ
ี
จากความจําเป)น ดังนั้นจึงเป)นแรงกระตุ+นสําคัญที่จะแต งกาย เพอสนองความตองการของสังคม และ
+
ื่
อื่นๆ จึงทําให+เครื่องแต งกายมีรูปแบบแตกต างกันไปตามปMจจัย และสิ่งแวดล+อมดังนี้
2.3.1 สภาพภูมิอากาศ
ั
ี่
ิ
I
ภูมประเทศ และดนฟาอาการทแตกตางกน การใช+เสื้อผ+า เครื่องแตงกายก ็
ิ
)
ี
ี่
ี่
แตกตางไปดวย ผู+คนทอาศยอยู ในเขตทมอากาศหนาวจําเปนตองใช+เสื้อผ+าทหนา หรือหลายๆ ชั้น
+
+
ี่
ั
ํ
็
ส วนผู+ที่อยู ในเขตที่มีอากาศร+อนกใช+เสื้อผ+าบาง และน+อยชิ้นเป)นผลทาให+มลักษณะของเครื่องแตงกาย
ี
ี่
ั
ี
ิ่
ี่
ั้
ุ
ของแตละถนมรูปแบบทแตกตางกนทงในเรื่องของสีสัน และลักษณะของใยผ+าวัสดทนํามาทอ อาทิ
ี่
ี
1
ี
ชาวอยิปตรู+จักนําปาน ลินินมาทอเป)นผ+าทใช+เป)นเครองนุ งห ม ส วนชาวบาบาโลเนีย และซเรียมการ
ี
ื่
เลี้ยงสัตว1 จึงนําขนสัตว1มาทอเป)นผ+าขอสัตว1สีต างๆ และผู+คนที่อาศัยอยู ในเขตอบอนกใช+ผ+าโปร ง บางม ี
็
ุ
3
สีสันสวยงามเป)นต+น
2.3.2 ศัตรูทางธรรมชาติ
ประเทศในแถบร+อน มกจะไดรับผลจากพวกสัตว1 และแมลงตางๆ ผู+คนใน
ั
+
ํ
+
+
ี
แถบนี้ จึงหาวิธีปIองกน โดยพอกร างกายไว+ดวยโคลน กระโปรงททาจากหญา เช น พวกฮาไวเอยน ท ี่
ี่
ั
+
+
ึ่
ิ
ี่
ั
อยู แถวทะเลแปซฟค และพวกโมชันนิก เผ าโซบี ซงปMจจุบันยังคงนุ งกนอยู แมว ากระโปรงหญาทพวก
ึ่
เขาคิดว าจะปIองกนแมลงจะกลับกลายเป)นทเกบแมลงมากกว า หรือในกรณของอนุ หรือ ไอนุ ซงชาว
ุ
ี่
ี
็
ั
พื้นเมืองของญี่ปุนรู+จักใช+กางเกงขายาว เพื่อปIองกันสัตว1 และแมลงต างๆ เป)นต+น
2.3.3 หน าที่การงาน
ั
+
ื่
ี
ู
ั
ในอดตมนุษย1ใช+หนังสัตว1 และใบไม เพอปIองกนอนตรายจากการถกหนาม
ึ้
็
เกี่ยว และแมลงกันต อย ในเวลาที่เข+าปา เพื่อหาอาหาร ต อมาเมื่อสังคมเจริญขนมนุษย1กสามารถนําใย
ึ้
ื่
+
จากต+นแฟลกซ1มาทอเป)นผืนผ+าทรู+จักกนในนามของผ+าลินิน เมอความเจริญทางดานวิทยาการมากขน
ั
ี่
ิ
ี
ิ่
ึ่
ึ้
ั
ี่
ผ+าทผลิตกมเพมขนมากมายหลายชนิด และมกาประดษฐ1เสื้อผ+าชนิดพเศษ ซงตรงกบความตองการ
ิ
+
ี
็
3
สวาท เสนาณรงค1, ม.ป.ป. : 144