Page 149 - 049
P. 149
135
ั
ื่
ึ
ี
ี
ี
Sherman (2001) ได้ศกษาเรองปจจัยของการสอนทมงานให้มระเบยบวินัยระหว่างกัน
ี
ในงานทท าของครโรงเรยนมัธยมศกษาของโรงเรยนเอกชนพบว่าการสอนให้ทมงานมระเบยบวินัย
ี
ี่
ู
ี
ึ
ี
ี
ิ
ื
ี่
ระหว่างกันโดยการให้เวลา การเตบโตอย่างมออาชพและความขัดแย้งต่างๆ ครทมประสบการณ ์
ี
ู
ี
ี่
ู
ิ
ิ
ิ
การสอนหลักสตรในการบรหารเวลา พวกเขาได้รบประโยชน์จากปฏกิรยาทพวกเขามให้แก่กัน
ั
ี
ิ
็
ุ
ู
ความขัดแย้งระหว่างสมาชกนั้นเปนอปสรรคต่อความสามารถของครในการพัฒนาระดับ
ี
ู
์
ี่
ี่
ความเชอมั่น คอวัฒนธรรมของโรงเรยนทแข็งแกร่ง ครทไม่มประสบการณพวกเขาจะได้รบจาก
ื่
ั
ื
ี
ผลของทมงาน ความแข้มแข็งของโรงเรยนยังท าลายผลจากความร่วมมอของทมงาน เพราะคร ู
ื
ี
ี
ี
ู
้
ึ
ึ
ี่
ุ
หลายคนไม่ได้รสกผูกมัดในข้อตกลงต่างๆ ทเกิดข้นในระยะเวลาการประชมคร ู
Ana (2006) ได้ศกษาเรอง ความเข้าใจความขัดแย้งในทมงาน กรณศกษา
ึ
ี
ึ
ี
ื่
ี
ิ
ความช่วยเหลอต่างๆ ทางด้านเทคโนโลยีในส่งแวดล้อมทมความสมบูรณในการจัดการความขัดแย้ง
์
ี่
ื
พบว่า ความขัดแย้งเบ้องต้นเกิดข้นจากบคคล หรอเกี่ยวข้องกับความสัมพันธและต่อด้วยงาน
ื
ุ
ื
ึ
์
ุ
ี
เปนล าดับต่อไป ปรากฎว่าความขัดแย้งของประเภทงาน ซงมประโยชน์ต่องานกล่มอย่างมาก
่
ึ
็
ึ
ึ
จากการศกษาแสดงให้เหนถงองค์ประกอบในการจัดการความขัดแย้งทน ามาใช้ และแสดงให้เหน
็
็
ี่
ิ
ื
ว่าเทคโนโลยีมบทบาทในการจัดการความขัดแย้งของทมงาน เทคโนโลยีดเหมอนจะเปนส่งอ านวย
็
ี
ู
ี
ี่
ความสะดวกในการจัดการความขัดแย้ง โดยเปนช่องทางในการสอสารขั้นพื้นฐาน การสอสารทม ี
็
ื่
ื่
ี่
ี
ิ
้
ิ
ประสทธภาพและสรางโอกาสในเกิดการกระท าทมความคด อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีอาจจะเพิ่ม
ิ
ความขัดแย้งจากการเข้าใจผิดได้จากการขาดทักษะการสอสาร
ื่
ุ
ึ
จากการศกษางานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ สรปได้ว่าการแก้ปญหาความขัดแย้งของ
ั
ี่
ี
ี
ิ
ผู้บรหารนั้น ผู้บรหารจะไม่ใช้วิธใดวิธหนงโดยเฉพาะ แต่อาจจะเลอกใช้ตามสถานการณทเกิดข้น
ิ
ึ
ึ
ื
์
่
ึ
ื
ิ
และเลอกใช้วิธการแก้ปญหาความขัดแย้งในระดับทแตกกต่างกัน ซงผู้บรหารจ าเปนต้องอาศัยทั้ง
่
ี่
ั
็
ี
้
ื่
ุ
ความร ทักษะ ความสามารถและคณลักษณะอนๆ ในการจัดการกับความขัดแย้ง เพื่อสามารถน า
ู
ิ
ึ
สถานศกษาให้ด าเนนการประสบความส าเรจบรรลเปาหมายได้อย่างมประสทธภาพ
ี
ิ
ิ
็
ุ
้