Page 144 - 047
P. 144
123
ี
ในโรงเรยน ขนาดเล็ก 3 โรง โรงละ 1 คน ขนาดกลาง 3 โรง โรงละ 1 คน และขนาดใหญ่ 3 โรง โรง
์
ึ
ิ
ละ 1 คน รวมทั้งส้น 9 โรง 9 คน โดยได้บันทกผลการสัมภาษณลงในเครองอัดเสยงและท าการ
ี
ื่
์
บันทกการสัมภาษณด้วยตนเอง
ึ
้
์
การวิเคราะหขอมูล
ผู้วิจัยตรวจสอบความถกต้องของแบบสอบถาม และประมวลผลข้อมูล
ู
ี่
์
ี่
โดยการใช้โปรแกรมค านวณผลด้วยคอมพิวเตอร โดยน าข้อมูลทได้จากแบบสอบถามตอนท 1
้
ี่
์
เกี่ยวกับสถานภาพทั่วไปวิเคราะหข้อมูลโดยการแจกแจงความถ และหาค่ารอยละ แล้วน าเสนอใน
̅
ี่
็
์
รปตาราง ตอนท 2 เปนมาตราส่วนประมาณค่า วิเคราะหข้อมูลโดยหาค่าเฉลย ( ) และค่า
ู
ี่
ี่
ู
เบยงเบนมาตรฐาน (S.D.) รายด้านและรายรวมแล้วน าเสนอในรปตารางประกอบการบรรยายและ
ั
ี
วิเคราะหข้อมูลการเปรยบเทยบระดับปญหาการบรหารงานวิชาการ ของครผู้สอนในโรงเรยน
ู
ี
์
ี
ิ
ิ
ั
เอกชนสอนศาสนาอสลาม สังกัดส านักงานการศกษาเอกชนจังหวัดปตตาน ทม อายุ ระดับการศกษา
ี
ี่
ึ
ึ
ี
ิ
ู
ี
ี่
ิ
ี
ประสบการณการท างานและปฏบัตงานอยู่โรงเรยนทมขนาดแตกต่างกัน ในด้านหลักสตร ด้าน
์
ื่
ี
กระบวนการจัดการเรยนร ด้านสอ เทคโนโลยี การเรยนการสอน และด้านการวัดผลและประเมนผล
ี
ู
ิ
้
เรยงตามล าดับ โดยใช้สถตทดสอบท (t -test) และการทดสอบเอฟ (F-test) หากพบมความแตกต่าง
ี
ี
ี
ิ
ิ
ู
ิ
ี
ี
ี่
อย่างมนัยส าคัญทางสถต จะท าการทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลยเปนรายค่โดยวิธการของเชฟ
ิ
็
เฟ (Scheffe’ Method)
่
ิ
์
การวิเคราะหข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาการบรหารงานวิชาการ
ี
โรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม สังกัดส านักงานการศกษาเอกชนจังหวัดปตตาน จาก
ิ
ึ
ี
ั
ึ
ิ
ื
แบบสอบถามตอนท 3 และจากการสัมภาษณของผู้บรหารสถานศกษา ใช้วิธการวิเคราะหเน้อหา
์
ี่
ี
์
ี่
็
แจกแจงความถ และประมวลความคดเหนทได้สรปเปนผลการวิจัย
ุ
ี่
็
ิ
ั
สรุปผลการวิจย
จากการวิเคราะหข้อมูลสรปผลการวิจัยเรองปญหาการบรหารงานวิชาการ
ุ
์
ิ
ั
ื่
ี
ึ
ั
ิ
โรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม สังกัดส านักงานการศกษาเอกชนจังหวัดปตตาน ตาม
ี
ุ
วัตถประสงค์วิจัยดังน้ ี
์
้
5.1 ผลการวิเคราะหสถานภาพของผูตอบแบบสอบถาม
ผลการวิเคราะหสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ อายุ 30- 50
์
ิ
ป ี รอยละ 49.0 ระดับการศกษา ปรญญาตร รอยละ 92.1 ประสบการณการท างาน ระหว่าง 5-10 ป ี
้
ี
์
ึ
้
้
ี
ิ
ี่
ี
้
รอยละ 52.8 และทปฏบัตงานอยู่โรงเรยนทมขนาดแตกต่างกัน ขนาดเล็กไม่เกิน 500 คน รอยละ
ิ
ี่