Page 140 - 047
P. 140
119
้
ี
ิ
ี
ี
ู
ี
ี
มความเหมาะสม มความหลากหลาย ให้สอดคล้องกับวิธการเรยนร ธรรมชาตของสาระการเรยนร ้ ู
ิ
์
ี
และความแตกต่างระหว่างบคคลของผู้เรยน” (ผู้ให้สัมภาษณ, 10 พฤศจกายน 2558)
ุ
4. ดานการวัดผลและประเมินผล
้
ุ
ิ
การวัดและประเมนผลในปจจบันให้นักเรยนทกคนต้องผ่านการประเมน
ั
ี
ิ
ุ
ุ
ี่
จงท าให้นักเรยนทจบหลักสตรไม่มมาตรฐานและคณภาพ รองลงมาคอ ความเทยงตรง แม่นย าและ
ึ
ี
ื
ี่
ู
ี
ื
ี
่
ุ
ี่
ี
ผลสัมฤทธ์ ิทางการเรยนต า น้อยทสดคอ โรงเรยนขาดมาตรการในการจัดการนักเรยนทไม่ผ่านการ
ี่
ี
ิ
ประเมนผล
ี
การวัดและประเมินผลในโรงเรยน
ั
ิ
ึ
์
ิ
ผลการสัมภาษณผู้บรหารสถานศกษาพบว่า ปญหาการบรหารงาน
ิ
ั
ี
ึ
ี
วิชาการโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม สังกัดส านักงานการศกษาเอกชนจังหวัดปตตาน โดย
ู
ภาพรวม การวัดและประเมนผลอยู่ในกระบวนการจัดการเรยนร ครผู้สอนด าเนนการเปนปกตและ
้
ี
ิ
ิ
ิ
็
ู
สม าเสมอ ในการจัดการเรยนการสอน ใช้เทคนคการประเมนอย่างหลากหลาย เช่น การซักถาม การ
ิ
ี
ิ
่
สังเกต การตรวจการบ้าน การประเมนโครงงาน การประเมนช้นงาน/ ภาระงาน แฟมสะสมงาน การ
้
ิ
ิ
ิ
็
ี่
ใช้แบบทดสอบ เปนต้น ดังทผู้ให้ข้อมูลได้กล่าวว่า
ิ
“ ครผู้สอนเปนผู้ประเมนเองหรอเปดโอกาสให้ผู้เรยนประเมนตนเอง
็
ี
ิ
ิ
ู
ื
ิ
ิ
ี
ี
เพื่อนประเมนเพื่อน ผู้ปกครองร่วมประเมน ในกรณทไม่ผ่านตัวช้วัดให้มการสอนซ่อมเสรม มีการ
ิ
ี
ี่
็
ตรวจสอบว่า ผู้เรยนมพัฒนาการความก้าวหน้าในการเรยนร อันเปนผลมาจากการจัดกิจกรรมการ
ี
้
ี
ี
ู
ี่
ี
ุ
ื
ั
เรยนการสอนหรอไม่ และมากน้อยเพียงใด มส่งทจะต้องได้รบการพัฒนาปรบปรงและส่งเสรมใน
ี
ิ
ิ
ั
ิ
ด้านใด” (ผู้ให้สัมภาษณ, 9 พฤศจกายน 2558)
์
ั
นอกจากน้ยังพบว่าเปนข้อมูลให้ครผู้สอนใช้ปรบปรงการเรยนการสอน
ี
็
ุ
ี
ู
ึ
่
ี่
ของตนเองด้วยซงสอดคล้องกับผู้ให้ข้อมูลทกล่าวว่า
็
“ครผู้สอนใช้เปนข้อมูลในการปรบปรงการเรยนการสอนของตนเอง
ี
ู
ั
ุ
ู
เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรยนรและตัวช้วัด ส่วนใหญ่จะยึดเกณฑ์ตามหลักสตรแกนกลาง
้
ู
ี
ี
ั
ิ
ี
ั
ึ
ี
การศกษาขั้นพื้นฐาน 2551 มการวัดผลและประเมนผล 4 คร้งต่อป โดยแบ่งเทอมละ 2 คร้ง กลาง