Page 288 - 045
P. 288

266



                                                        ื
               ที่มองแล้วจะเป็นปัญหา เราก็ควรหาวิธีแก้ หรอส่งเสรมในสิ่งที่ดี เอาง่ายๆคือว่าเราจะต้องคอยติดตาม
                                                               ิ
               สอบถาม สร้างความกันเองอยู่ตลอดเวลา บางทีฝ่ายครูจะพูดได้ดี นาซีฮัตกันในที่ประชุม ทําให้ผมกลับมาคิด
               แล้วทบทวนตลอดเรื่องเกี่ยวกับความอิคลาสอะไรแบบนี้


               ผู้วิจัย : โดยรวมแล้วมีปัญหาไหมค่ะ สําหรับเรื่องนี้

                                                                                                       ่
                                                     ั
               ผู้ใหสัมภาษณ์ :  พูดถึงว่าปัญหาก็คงไม่ใช่ครบ แต่คือนั่นแหละครบ บางทีเราก็สังเกตได้ง่าย เวลาที่เรารวม
                                                                       ั
                   ้
                                      ่
                                                                   ุ
               ภารกิจด้วยกัน ทํางานใหญ ทํางานเล็ก งานไหนๆมันย่อมมีอปสรรค มีปัญหาทั้งนั้น แต่ผมสังเกตว่าเวลาที่
                                    ื่
                                                                                           ุ
               เราพูดคุย เราตระหนักเรองนี้ก่อนเรมต้นปฏิบัติงานหรอวางแผนการทํางาน มันจะเจออปสรรค จะสะดุด
                                                              ื
                                              ิ่
                              ุ
                                                          ็
               เหมือนเวลาเจออปสรรค แต่สามารถคลี่คลายได้เรว หาทางออกได้เรว มีความรสึกทุกคนไม่ยึดติดกับวัตถุ
                                                                                   ู้
                                                                          ็
               กับดุนยาอะไรประมาณนั้น แต่เมื่อไหรที่เราเพิกเฉย ตัวใครตัวมัน ไม่สนใจว่าใครจะคิดอะไร ในที่ประชุมก็
                                                ่
                                               ื่
               ไม่ได้จัดนาซีฮัต ผอ. เองก็ไม่ได้พูดเรองนี้ บางทีก็ลืมบ้าง บางทีก็เป็นช่วงที่ ผอ.เอง อหม่านออน เวลางานที่
                                                                                       ี
                                                                                             ่
               ทําออกมาก็จะรู้สึกว่าสะเปะสะปะ พอเจอปัญหาก็รู้สึกว่าหาทางออกยาก แก้ยาก

               ผู้วิจัย : ค่ะๆ แล้ว ผอ.คิดว่าแนวทางในการแก้ปัญหาสําหรับเรื่องนี้ควรเป็นอย่างไร
                                     ื่
               ผู้ใหสัมภาษณ์  :  ผมว่าเรองเนี๊ยต การตั้งเจตนาอะไรนั้น เป็นเรองของจิตใจที่อยู่ภายในของคน ซึ่งเราจะวัด
                                                                    ื่
                   ้
                                                                                          ิ
                       ิ
               ยากก็จรง แต่ผมคิดว่าอย่างน้อยมันต้องมีวิธีแหละครบ หนึ่งคือบางทีเราในฐานะผู้บรหารก็ควรที่จะเอา
                                                              ั
                                                 ั้
                                                                      ื่
                                                                                                     ื
                                                                                      ่
               ประเด็นนี้พูดในวาระการประชุมทุกครง ต้องจดว่าจะต้องพูดเรองนี้นะ ไม่ว่าจะเอยก่อนประชุมหรอท้าย
                                                                           ื่
                                                     ู้
                                         ้
               เวลาของประชุม เหมือนเราสรางให้ทีมงานรว่าเราให้ความสําคัญกับเรองนี้จึงพูดถึงเรองนี้บ่อย ประมาณว่า
                                                                                       ื่
               ต้องแก้ที่ตัวผมนั้นแหละครับ อันที่สอง น่าจะสร้างเครื่องมือเพื่อวัดเจตคติของแต่ละคนอะไรทํานองนั้น เมื่อ
                                                                             ั้
               เราได้อ่าน ได้ทํา มันก็สะกิดเรานะ เราได้ทบทวนในหน้าที่ของเรา บางครงก็กลัวนะ ทํางานก็เหนื่อยแต่กลับ
               สูญเปล่า ส่วนอนที่สาม ภายในโรงเรยนน่าจะมีการจัดกิจกรรม หรอคลินิกรกษาหัวใจ เพื่อเป็นการทบทวน
                                                                       ื
                                                                               ั
                             ั
                                               ี
                                                                                                  ั
               ตนเอง ให้เรามีความอิคลาศและมอบหมายต่ออัลลอฮฺในทุกการงานอย่างจริงๆ ในที่นี้จะช่วยบําบัดรกษาโรค
               ที่ทําให้อามัลเราเสื่อม หัวใจเราแข็งกระด้าง อะไรแบบนั้น บางทีในคลินิกนั้นก็อาจให้มีสถานที่มี
                  ั
                                                                                            ู้
               ผู้รบผิดชอบหลักและหางบประมาณเล็กน้อยมาช่วยในด้านการจัดการ นําเสนอองค์ความรผ่านตัวหนังสือ
                                                                                        ้
                                 ื
               เอกสารวิชาการ หรอไม่ก็ให้มีสื่อมีเดียต่างๆที่ทันสมัย อานวยความสะดวก แล้วสรางกิจกรรมให้เป็นที่
                                                                 ํ
               น่าสนใจ ไม่เบื่อ ก็น่าจะเป็นประโยชน์นะครับ
               ผู้วิจัย : ค่ะ มีแนวคิดที่แหวกแนวดีนะค่ะ
               ผู้ใหสัมภาษณ์ : ผมก็คิดอยู่นานแล้วนะครบ แต่ก็ไม่ได้ลงมือทําสักที ดีนะที่มีนักศึกษามาสัมภาษณ์เกี่ยวกับ
                                                   ั
                   ้
               เรื่องนี้ อันนี่ เลยเป็นการสะกิดเตือนผมไปในตัวเลย
   283   284   285   286   287   288   289   290   291   292   293