Page 208 - 045
P. 208
186
ิ
่
ี
สอนศาสนาโดยส่วนใหญมีการก าหนดวัตถุประสงค์ในการบรหารงานโรงเรยนในทิศทาง
ที่คล้ายกันและก าหนดระยะเวลาที่ชัดเจน
ผลการวิจัยเป็นเช่นนี้อาจเนื่องมาจากผู้บริหารสถานศึกษาได้ให้ความส าคัญในการ
ก าหนดวัตถุประสงค์ของการปฏิบัติงาน ตลอดจนตระหนักถึงการน าแบบอย่างของท่านรสูล
ิ
้
มาใช้ในการบรหารจัดการด้วยวิธีการเป็นผู้น าที่พรอมจะชี้แจงท าความเข้าใจให้ผู้ตามได้รบทราบ
ั
แบบอย่างดังกล่าวนี้จะปรากฏให้เห็นในสมัยท่านนบีมุฮัมมัด ที่มีการชี้แจง สรางความเข้าใจ
้
ให้กับบรรดาซอฮาบะฮฺ เช่น ในสถานการณ์การประชุมเพื่อวางแผนในการท าสงคราม การก าหนด
วัตถุประสงค์และเป้าหมายในการพิชิตเมืองต่างๆ ทั้งนี้หลักการอสลามได้ชี้ให้เห็นว่าการที่บุคคล
ิ
ื่
หนึ่งได้รบทราบถึงเรองราวต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานส่วนรวมนั้นถือเป็นสิทธิในการอยู่
ั
ิ
่
ั
รวมกันในสังคมอย่างหนึ่ง กล่าวได้ว่าอสลามได้ก าหนดสิทธิของปัจเจกบุคคลที่ควรได้รบจาก
ส่วนรวม และก าหนดสิทธิของส่วนรวมที่ต้องได้รบจากสมาชิกในกลุ่ม ดังนั้นสมาชิกหนึ่งก็ต้อง
ั
ท างานเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของกลุ่ม ในทางกลับกันกลุ่มคณะก็ต้องท างานเพื่อผลประโยชน์ของ
สมาชิกที่เป็นปัจเจกชนด้วย ท่านนบีมุฮัมมัด กล่าวว่า
ِ ِ ِ
(( اضع ب وضع ب ُّ دشي ناي ن بْ لاك ِ نمؤمْ لل نمؤلما ))
ِ
23
ْ َ
ْ
ْ
ً َْ ُُ َْ ُ َ َ ُ
ُ ُ
ُ
ความว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างมุอ์มินผู้ศรัทธานั้น เปรียบได้
ดังอาคารที่ต่างส่วนต่างเกื้อหนุนเสริมความแกร่งให้แก่กัน”
แล้วท่านก็สอดประสานนิ้วมือเข้าด้วยกัน
3
หะดิษ บันทึกโดย บุคอรีย์ ,หมายเลขหะดิษ 2446 ; และมุสลิม หมายเลขหะดิษ 2585