Page 203 - 045
P. 203
181
ั
ทีประจักษ์แก่ผู้ใดนอกจากอลลอฮฺ และท่านจะไม่เทียบเคียงสิ่งใดๆกับพระองค์” และความ
บริสุทธิ์ใจคือแก่นแท้ของศาสนานี้
ผลการวิจัยเป็นเช่นนี้อาจเนื่องมาจากผู้บริหารโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม
สังกัดส านักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดนราธิวาสได้ตระหนักและให้ความส าคัญในหลักการของ
ิ
ิ
ศาสนามาใช้ควบคู่กับการบรหารจัดการเป็นอย่างดี และแน่นอนผู้บรหารจ าต้องมีพื้นฐานในเรอง
ื่
ศาสนาในระดับหนึ่ง เพราะหากผู้บรหารมีความคิดและปฏิบัติโดยการแยกจากกันระหว่างศาสนา
ิ
กับการท างาน ถือว่าเป็นความคิดที่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ทั้งนี้ผู้วิจัยมีความเห็นว่าหลักส าคัญ
ิ
ในกระบวนการวางแผนนั้นต้องยึดแนวทางการปฏิบัติตามค าสอนศาสนาอสลามและตามแบบฉบับ
ี
ั
ท่านนบีมุฮัมมัด อนจะส่งผลให้การงานที่ปฏิบัติไม่ศูนย์เปล่าและมีคุณค่าอย่างสูงสุด อกทั้ง
การตั้งเจตนารมณ์อย่างแน่วแน่ย่อมเป็นกระบวนการที่ส าคัญที่ทุกกระบวนการท างานโดยเฉพาะ
ิ
ในกระบวนการวางแผนจะต้องให้ความส าคัญเป็นล าดับแรก ซึ่งประกอบด้วยความบรสุทธิ์ใจ
ิ
ั
ต่ออลลอฮฺ ในทุกค าพูด ทุกการกระท า และในทุกๆการอบาดะฮฺ และแม้ว่าการตั้งเจตนารมณ์
แน่วแน่เป็นเรองของจิตใจที่วัดกันยากก็ตาม แต่ก็สามารถที่จะแสดงออกทางวาจาหรอพฤติกรรม
ื
ื่
ิ
และสามารถที่จะสะท้อนให้เห็นได้จากผลสัมฤทธิ์จากการปฏิบัติงาน จะเห็นได้ว่าอสลามให้
ความส าคัญกับการตั้งเจตนารมณ์อย่างสูงสุดโดยเรมต้นการท างานต่างๆด้วยการท าให้เจตนาของ
ิ่
ั
ิ
บุคคลมีความบรสุทธิ์ เพื่อที่จะท าให้การงานด าเนินไปเพื่ออลลอฮฺ แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้นไม่ใช่
ื
เพราะเห็นแก่ประโยชน์อนใด เช่น เงินทอง อานาจ และต าแหน่งหน้าที่การงาน ชื่อเสียง หรอความ
ื่
ื่
ทะเยอทะยานอนใดก็ตามที่จิตวิญญาณอาจซุกซ่อนเป็นความลับเอาไว้ และในเมื่อทุกการกระท า
เป็นการแสดงถึงความภักดีแล้วก็จงให้ผู้กระท าความดีนั้นแสวงหาความโปรดปรานจาก
่
ั
อลลอฮฺ เพียงองค์เดียวเท่านั้น ในคัมภีรอลกุรอานได้เน้นย้ าถึงเรองดังกล่าว ดังค าด ารสของ
ั
ื่
์
ั
พระองค์ที่ว่า
ِ
اِ ِ
ِ
ِ ِ
﴾ ءاف نح نيدلا وَ ل ينصلمُ الله او دبع يل لَّإ اورمُأ امو ﴿
ُْ
ََ
ُ
ّ ُ َ
ُْ َ
َ
ُ ََ
َ ُ َ
5 : ةنيبلا
ื่
ความว่า “และพวกเขามิได้ถูกบัญชาให้กระท าอนใดนอกจากเพื่อเคารพ
ภักดีต่ออลลอฮฺ เป็นผู้มีเจตนาบรสุทธิ์ในการภักดีต่อพระองค์ เป็นผู้อยู่
ั
ิ
ในแนวทางที่เที่ยงตรง”
(อัล-บัยยินะฮฺ : 5)