Page 181 - 045
P. 181
159
“ส่วนใหญแล้วผู้ปกครองนักเรยนยังไม่เข้าใจเรองการวางแผน อย่างเช่น
ื่
่
ี
่
เราเชิญผู้ปกครองมารวมประชุมเพื่อชี้แจงรายละเอยดและต้องการความ
ี
คิดเห็นของผู้ปกครอง แต่ผู้ปกครองก็จะรบฟังเพียงอย่างเดียวไม่ค่อยให้ความ
ั
่
รวมมือในการแสดงความคิดเห็น คือส่วนใหญจะไม่ค่อยสะท้อนปัญหาให้
่
ทางโรงเรียนได้รับรู้” (อาไซน์นา อับดุลเลาะ, 25 ตุลาคม 2558)
แนวทางแก้ไขกระบวนการวางแผนในขั้นตอนการก าหนดแผนปฏิบัติงาน โดยการดึง
ี
่
ความร่วมมือจากผู้ปกครองนักเรียนเข้ามามีส่วนรวมในการก าหนดแผนของโรงเรยน ผู้ให้ข้อมูลได้
ื
เสนอแนะแนวทางการจัดประชุมย่อยเฉพาะกลุ่มเล็กๆ เพื่อให้บรรยากาศการหารอไม่เป็นทางการ
มากเกินไป และให้ได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนมากที่สุด ดังที่ผู้ให้ข้อมูลได้กล่าวว่า
“กรณีที่เราต้องการความคิดเห็นจากผู้ปกครองเพื่อน ามาเป็นข้อมูลในการ
ก าหนดแผน เราก็จะเปิดห้องประชุม เพื่อพูดคุยแบบตรงไปตรงมาเพื่อให้ได้
ี
ิ
ทราบประเด็นปัญหาที่แท้จรง เช่น ถ้านักเรยนระดับชั้น ม.1 ประสบปัญหา
เราก็จะเรยกเฉพาะผู้ปกครองของ ม.1 เพื่อจะให้ผู้ปกครองกล้าแสดงความ
ี
คิดเห็นเต็มที่ เพราะเราเชื่อเลยว่า ถ้าเป็นห้องยิ่งเล็กยิ่งได้ข้อมูลมากขึ้น นี้เป็น
ส่วนหนึ่งที่เราน ามาปรับปรุงบอร์ดของเรา” (ฮารณ ยูโซะ, 21 ตุลาคม 2558)
นอกจากนี้ผู้บรหารโรงเรยนอกส่วนหนึ่ง มีความเห็นว่าต้องมีการน าหลักทาง
ี
ี
ิ
จิตวิทยาในการบริหารทรัพยากรบุคคลมาใช้ในการขอความร่วมมือจากฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งบุคคลต่าง
กลุ่มต่างสาขาอาชีพก็อาจจ าเป็นต้องใช้เทคนิคที่แตกต่างกัน เพื่อให้ประสบผลส าเรจในการ
็
ปฏิบัติงานร่วมกันสูงสุด ดังที่ผู้ให้ข้อมูลกล่าวเชิงเสนอแนะว่า
“ผมเองคงต้องศึกษาเทคนิคการประชุมหารือ และต้องศึกษาหลักทางจิตวิทยา
ต่างๆในการดึงความร่วมมือของบุคคลกลุ่มที่มีความเห็นเงียบนี้มาให้ได้”
(มะนาพี ดะแย, 26 ตุลาคม 2558)