Page 140 - 044
P. 140
140
ื
ี
ุ
จากความหมายของการเรยนรแบบร่วมมอข้างต้น สรปได้ว่า การจัดการเรยนร ู ้
ู
ี
้
ื
ึ
ี
ี่
ี
ุ
็
แบบร่วมมอ หมายถง การจัดการเรยนการสอนทผู้สอนจัดให้ผู้เรยนแบ่งเปนกล่มเล็กๆ ประมาณ 4-6
ึ
ู
ั
ี
ื
คน เพื่อให้ผู้เรยนได้เรยนรโดยการท างานร่วมกัน ช่วยเหลอซงกันและกัน และร่วมกันรบผิดชอบ
้
่
ี
็
ั
ุ
ี่
ุ
็
งานในกล่มทได้รบมอบหมาย เพื่อให้เกิดเปนความส าเรจของกล่ม
ี
ื
ุ
้
ู
วัตถประสงค์ของการจัดการเรยนรแบบร่วมมอ
ื
้
ี
ุ
ู
์
ั
ี่
ส าหรบวัตถประสงค์ของการจัดการเรยนรแบบร่วมมอ อาภรณ ใจเทยง (2550 :
121) ได้กล่าวว่า ดังน้ ี
ี
ึ
ึ
ี
ี่
ุ
1. เพื่อให้ผู้เรยนได้เรยนรและฝกทักษะกระบวนการกล่มได้ฝกบทบาทหน้าทและ
้
ู
ุ
ั
ความรบผิดชอบในการท างานกล่ม
้
ิ
2. เพื่อให้ผู้เรยนได้พัฒนาทักษะการคดค้นคว้า ทักษะการแสวงหาความรด้วย
ู
ี
ตนเอง
ิ
ิ
ทักษะการคดสรางสรรค์ การแก้ปญหา การตัดสนใจ การตั้งค าถาม ตอบค าถาม การใช้ภาษา การ
้
ั
พูด ฯลฯ
ื
3. เพื่อให้ผู้เรยนได้ฝกทักษะทางสังคม การอยู่ร่วมกับผู้อน การมน ้าใจช่วยเหลอ
ื่
ี
ึ
ี
ี
ื่
ั
็
ผู้อน การเสยสละ การยอมรบกันและกัน การไว้วางใจ การเปนผู้น า ผู้ตาม ฯลฯ
ื
้
ี
ู
ลักษณะของการเรยนรแบบร่วมมอ
ี่
ึ
์
อาภรณ ใจเทยง (2550 : 121) ได้กล่าวถง การจัดกิจกรรมแบบร่วมแรงร่วมใจว่าม ี
ลักษณะ ดังน้ ี
ุ
์
ิ
ุ
ี
ุ
ี
1. มการท างานกล่มร่วมกัน มปฏสัมพันธภายในกล่มและระหว่างกล่ม
ิ
ี
ุ
2. สมาชกในกล่มมจ านวนไม่ควรเกิน 6 คน
ิ
ื
ุ
ี
3. สมาชกในกล่มมความสามารถแตกต่างกันเพื่อช่วยเหลอกัน
ุ
ั
ั
ี่
ิ
ี
ี่
4. สมาชกในกล่มต่างมบทบาทรบผิดชอบในหน้าททได้รบมอบหมาย เช่น
็
ุ
1) เปนผู้น ากล่ม (Leader)
็
ิ
2) เปนผู้อธบาย (Explainer)
ึ
็
3) เปนผู้จดบันทก (Recorder)
็
4) เปนผู้ตรวจสอบ (Checker)
์
็
5) เปนผู้สังเกตการณ (Observer)

