Page 142 - 032
P. 142
122
ี
ี
ั
ู
ุ
ี
ุ
ต่อในระดับที่สงขึ้น มโรงเรยนตาดกาส าหรบสอนเด็กๆ รวมทั้ง สชล จรงการและคณะ (2549) ได้
ื
ู
ึ
ศกษาการพัฒนากระบวนการเรยนรสบสานต านานไหเกาะไม่ไผ่ ต าบลเกาะปนหยี อ าเภอเมอง
ี
้
ื
ั
ู
ิ
ุ
ู
จังหวัดพังงา ผลการศึกษาพบว่า เกาะไม่ไผ่เปนหม่บ้านชมชนมสลม หม่บ้านหนงของต าบลเกาะปน
่
ุ
ั
ึ
็
หยี อ าเภอเมองจังหวัดพังงา ตั้งอยู่บนเกาะและปาชายเลนอ่าวพังงา ชาวบ้านส่วนใหญ่รอยละ 95
่
ื
้
ี
ี่
ี
ั
ี
ประกอบอาชพประมงชายฝ่ง รองลงมาคือเกษตร มพื้นทสวนยางและนาข้าว เล้ยงปลาในกระชัง
ี
ี
่
ี
ิ
ี
และมอาชพบรการนักท่องเที่ยว มรายได้ต ากว่าและเพียงพอกับรายจ่ายเท่านั้น มผู้น าทางธรรมชาติท ี่
ื
ู
คนในชมชนให้ความเชอถอ คือ นายสระ เด่นสร (โต๊ะอหม่าม) นายหล่อเจ๊ะโส (โต๊ะคร) มการจัด
ื่
ิ
ุ
ิ
ุ
ี
ี
การศกษาโดยโรงเรยนของรฐและมการจัดการเรยนการสอนศาสนาให้แก่เดกๆแต่ผลสัมฤทธ ์ ิ
ึ
็
ั
ี
ี
ี
ี
ี
ู
ื่
ทางการเรยนไม่เปนที่น่าพอใจเนองจากครมภาระงานเอกสารทต้องรบผิดชอบ มสถานอนามัยและ
ี่
ั
ี
ี
็
้
ุ
ิ
บรการสาธารณะสขอยู่บนเกาะ ขาดไฟฟาใช้อย่างเพียงพอประชาชนใช้แผงเซลล์พลังงาน
ื
แสงอาทตย์ให้แสงสว่างภายในบ้านเท่านั้น มน ้าจดส าหรบอปโภคและบรโภคไม่เพียงพอในช่วง
ิ
ิ
ั
ุ
ี
หน้าแล้ง
็
ิ
ุ
ู
ี่
็
ึ
ทผลการศกษาเปนเช่นน้ ีอาจเปนเพราะว่าชมชนมสลมเกาะบโหลนตั้งอยู่ใน
ุ
ภูมศาสตรที่เปนเกาะห่างไกลจากศนย์กลางการพัฒนา การสอสารและการคมนาคมไม่สะดวก ท า
ื่
ิ
็
ู
์
ุ
ี
ุ
ี่
ุ
ุ
ุ
ั
ให้ชมชนขาดปจจัยสนับสนนทมผลต่อการพัฒนาคณภาพชวิตในเกือบทกด้าน ขาดบคลากรทาง
ี
การศึกษาและผู้น าศาสนาที่มาจากชมชนเอง ส่งผลท าให้ขาดการเชอมโยงกระแสการฟนฟอสลาม
ุ
ื่
ิ
ู
ื้
ี
ี
ิ
ึ
ี
ี
ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาตตามไปด้วย จงท าให้ยังมวิถชวิตตามวิถดั้งเดมตามบรรพ
ิ
ิ
ุ
ุ
บรษ ในด้านการปฏบัตศาสนกิจยังไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของความรศาสนาตามหลักวิชาการทม ี
้
ี่
ู
ิ
ุ
ี่
ื่
ี่
์
ิ
ิ
มาตรฐานดังเช่นในพื้นทอนๆ ดังทวิสทธ บลล่าเต๊ะ (2553) ได้ศึกษากระบวนการด ารงอัตลักษณ ์
ึ
ู
มสลมกับการสรางชมชนเข้มแข็ง : กรณศกษาชมชนมัสยิดบ้านเหนอ ต าบลคเต่า อ าเภอหาดใหญ่
้
ื
ุ
ิ
ุ
ี
ุ
ิ
ื
ุ
ี่
์
ี
ู
จังหวัดสงขลา ผลการวิจัยพบว่า ภมศาสตรทตั้งของชมชนมัสยิดบ้านเหนอ มส่วนส าคัญในการ
รกษาความเปนปกแผ่นของชมชน และความพยายามในการด ารงอัตลักษณมสลม 3 ประการอัน
็
ุ
์
ิ
ั
ึ
ุ
ได้แก่ การละหมาด การซากาต และการส่งเสรมความดยับยั้งความชั่ว มพลวัตทน ามาซงความ
่
ี
ี่
ี
ิ
ึ
ั
ิ
ิ
ู
ี
ุ
เข้มแข็งของชมชนในปจจุบัน การละหมาดมศักยภาพสงในการผลตซ ้าจักรวาลทัศน์อสลาม ขัดเกลา
จตใจและก่อให้เกิดการรวมตัวอย่างยั่งยืนในชมชน จงช่วยให้ชมชนชนมระบบสังคมของตัวเอง
ุ
ิ
ึ
ี
ุ
ขณะที่ซากาตช่วยสร้างเศรษฐกิจที่มลักษณะทั้งการแสวงหาก าไรและเอ้อเฟอแบ่งปนกันขึ้น ท าให้
ื
ี
ื้
ั
ี
ชมชนมหลักประกันสังคมแก่ผู้ด้อยโอกาส ส่วนกาส่งเสรมความดยับยั้งความชั่วก็ช่วยให้ชมชนม ี
ุ
ี
ุ
ิ
ิ
ุ
ี่
ี
้
็
กฎกตกาทใช้บังคับกันเองท าให้เกิดความสงบสข ร่มเย็น และเปนระเบยบเรยบรอยมากขึ้น และ
ี
์
ุ
กระบวนการที่ท าให้ชมชนสามารถด ารงอัตลักษณทั้งสามไว้ได้ 3 ประการ ได้แก่ การจัดการความร้ ู
ี
ิ
การสร้างวิถชวิต และการบรหารจัดการ
ี