Page 132 - 025
P. 132
132
บทคัดย่อ) สภาพและปัญหาการด าเนินการวางแผนกลยุทธ์ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัด
ี
ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษากาญจนบุร การเปรยบเทียบสภาพและปัญหาการด าเนินการวางแผนกล
ี
ยุทธ์ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษากาญจนบุร จ าแนกตามต าแหน่ง
ี
ของบุคลากร พบว่า โดยภาพรวม ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ที่เป็น
ี
เช่นนี้ อาจเป็นเพราะว่า ผู้บรหารเป็นผู้ก าหนดการด าเนินงานวางแผนกลยุทธ์ของโรงเรยน โดยมี
ิ
ครูผู้สอนเป็นผู้ด าเนินงานตามแผนที่ได้วางไว้ ท าให้ผู้บริหารมีสภาพการดาเนินงานวางแผนกลยุทธ์
สูงกว่าครูผู้สอน
2.5 การวิเคราะห์เปรยบเทียบสภาพการด าเนินงานวางแผนกลยุทธ์ของโรงเรยน
ี
ี
ิ
เอกชนสอนศาสนาอสลามในจังหวัดสตูล จ าแนกตามตัวแปรประสบการณ์การท างาน พบว่าการ
ิ
ี
เปรียบเทียบสภาพการด าเนินงานวางแผนกลยุทธ์ของโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามในจังหวัด
สตูล โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า การ
ี
เตรยมการวางแผน การน าแผนไปสู่การปฏิบัติ แตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญที่ระดับ .05 ในขณะที่
ุ
การจัดท าแผนและการปรบปรงแผนไม่มีความแตกต่างกัน ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของทองค า
ั
ื่
วรสาร (2547 :บทคัดย่อ) ศึกษาเรอง สภาพและปัญหาการด าเนินงานตามกระบวนการวางแผนใน
ี
ิ
ิ
โรงเรยนมัธยมศึกษา สังกัดกรมสามัญศึกษาจังหวัดสกลนคร พบว่า ผู้บรหาร ผู้ช่วยผู้บรหาร
หัวหน้าแผนงานและครผู้สอนที่มีประสบการณ์ในการท างานต่างกัน มีความคิดเห็นต่อสภาพการ
ู
ด าเนินงานตามกระบวนการวางแผนโดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ
ื่
ขัดแย้งกับงานวิจัยของพิมพ์ ทองทวีวัฒน์ (2542 : บทคัดย่อ) ศึกษาเรอง การศึกษาปัญหาการ
ปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการประจ าปีของผู้บรหารโรงเรยนประถมศึกษา สังกัดส านักงานการ
ิ
ี
ประถมศึกษาจังหวัดพังงา ผู้บริหารโรงเรียนที่มีประสบการณ์ในต าแหน่งต่ ากว่า 10 ปี และตั้งแต่ 10
ปีขึ้นไป มีปัญหาการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการประจ าปี โดยภาพรวมและรายขั้นตอนไม่
แตกต่างกันและขัดแย้งกับงานวิจัยของกมล จิตบุญ (2543 : บทคัดย่อ) ได้ศึกษากระบวนการ
วางแผนด าเนินงานตามโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชด ารในโรงเรยนประถมศึกษา
ิ
ี
ี
สังกัดส านักงานการประถมศึกษาจังหวัดน่าน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บรหารโรงเรยน
ิ
ี
ู
ครผู้สอน และคณะกรรมการโรงเรยนประถมศึกษา สังกัดส านักงานการประถมศึกษาจังหวัดน่าน
จ านวน 204 คน จาก 34 โรงเรยน เครองมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วน
ื่
ี
้
ประมาณค่า 5 ระดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่ารอยละ และการ
ิ
ทดสอบความแปรปรวน ซึ่งผลการวิจัย พบว่า ผู้บรหารโรงเรยน ครผู้สอน และคณะกรรมการ
ู
ี
โรงเรยนที่มีประสบการณ์ต่างกัน มีส่วนรวมในกระบวนการวางแผนด าเนินงานตามโครงการ
ี
่
ิ
เกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชด าริไม่แตกต่างกัน ที่เป็นเช่นนี้ อาจเป็นเพราะว่าผู้บรหารและคร ู