Page 131 - 025
P. 131
131
ในโองการดังกล่าวข้างต้น อลลอฮฺ ได้แบ่งมนุษย์เป็นสองประเภท คือ ผู้ที่มีความร ู้
ั
ู้
และผู้ที่ไม่มีความร ซึ่งสถานภาพของบุคคลทั้งสองประเภทนี้จะมีความแตกต่างกันทั้งในด้านการ
ด ารงชีวิต ความรอบรู้ในเรื่องต่าง ๆ และที่ส าคัญที่สุดการหวั่นเกรงการลงโทษในโลกหน้า และการ
หวังความเมตตา การตอบแทนจากพระเจ้าในโลกหน้า ซึ่งจะท าให้มนุษย์ที่มีความรู้ปฏิบัติแต่ความดี
ด ารงตนอยู่ในศีลธรรม และห่างไกลจากการปฏิบัติตนที่ต่ าทราม
: 9 ] 962 [
ู้
ความว่า “ พระองค์จะทรงประทานความรให้แก่ผู้ที่พรองค์ทรงประสงค์ และผู้ใด
ู้
ั
ั
ที่ได้รับความร แน่นอนเขาก็ได้รบความความดีอนมากมาย และไม่มีใครจะราลึก นอกจากบรรดาผู้
ที่มีสติปัญญาเท่านั้น” (อัลกุรอาน 2: 269)
ในความเป็นจรง อลลอฮฺ ต้องการให้มนุษย์ทุกคนมีความรด้วยการประทาน
ั
ู้
ิ
ู้
์
ื่
จากพระองค์ คือ คัมภีรของพระองค์ และต้องการให้มนุษย์แสวงหาวิชาความรในด้านอน ๆ ด้วย
ู้
ิ
ั
ู้
ู้
เพราะความรจะท าให้มนุษย์ได้รบแต่สิ่งที่ดี ความรท าให้มนุษย์สามารถรว่าอะไรจรง อะไรเท็จ
อะไรควรปฏิบัติและไม่ควรปฏิบัติ และท าให้รู้วิธีการในการแสวงหาปัจจัยยังชีพ ดังนั้นผู้ที่มีความร ู้
ื
ั
ั
คือผู้ที่ได้รบความดีอนมากมาย ที่เป็นเช่นนี้ อาจเป็นเพราะว่าบุคลากรที่มีการศึกษาสูงหรอต่ า มี
สภาพการด าเนินงานวางแผนกลยุทธ์ของโรงเรยนไม่แตกต่างกัน เนื่องมาจาก การด าเนินงาน
ี
วางแผนไม่ได้ขึ้นอยู่กับวุฒิการศึกษาแต่เพียงอย่างเดี่ยว อาจจะขึ้นอยู่กับประสบการณ์การท างาน
และความสามารถในตัวบุคคล
ี
ี
2.4 การวิเคราะห์เปรยบเทียบสภาพการด าเนินงานวางแผนกลยุทธ์ของโรงเรยน
เอกชนสอนศาสนาอิสลามในจังหวัดสตูล จ าแนกตามตัวแปรต าแหน่ง พบว่าการเปรยบเทียบสภาพ
ี
ิ
การน าเนินงานวางแผนกลยุทธ์ของโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามในจังหวัดสตูล โดยรวม
ี
ี
แตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า การเตรยมการ
ั
วางแผน การจัดท าแผน การน าแผนไปสู่การปฏิบัติ และการปรบปรงแผน แตกต่างกันอย่างมี
ุ
ื่
นัยส าคัญที่ระดับ .01 ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ ทองค า วรสาร (2547 : บทคัดย่อ) ที่วิจัยเรอง
ี
สภาพและปัญหาการด าเนินงานตามกระบวนการวางแผนในโรงเรยนมัธยมศึกษา สังกัดกรมสามัญ
ู
ิ
ศึกษา จังหวัดสกลนคร ซึ่งพบว่า ผู้บรหาร ผู้ช่วยผู้บรหาร หัวหน้าแผนงาน และครผู้สอน มีความ
ิ
ี
คิดเห็นต่อสภาพการด าเนินงานตามกระบวนการวางแผนของโรงเรยนแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญ
ี
ทางสถิติที่ระดับ 0.01 ในขั้นตอนการเตรยมการวางแผน ขั้นการจัดท าแผน ขั้นปฏิบัติตามแผน และ
ั
ื
ขั้นปรบแผนหรอจัดท าแผนใหม่ และขัดแย้งกับงานวิจัยของนันทพล พงษ์สรอย (2550 :