Page 83 - 023
P. 83

71







                       ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของพินิจ ทางทอง 2549  : 49-51 ได้กล่าวว่า สิ่งจูงใจทางบวก เป็นสิ่งจูงใจ
                       ที่นิยมใช้กันมาก คือ สิ่งจูงใจที่เป็นเงิน แม้เงินจะไม่ใช่สิ่งจูงใจที่ส าคัญที่สุด แต่เงินมักจะน ามาใช้จูง

                                                                            ั
                       ใจพนักงานให้ปฏิบัติงานกันอย่างเข้มแข็ง  ก็เพราะต้องการได้รบค่าตอบแทนเพื่อการยังชีพ  เงินมี
                       ความส าคัญต่อพนักงานในฐานะที่สามารถใช้บ าบัดความต้องการได้เกือบทุกประเภทนอกจากนี้
                                                        ิ
                       เงินยังเป็นเครื่องแสดงสถานภาพ เกียรตยศ ชื่อเสียง และอ านาจ


                                  3.2 การปรับตัวด้านอัตมโนทัศน์

                                                                                                ั
                                                                                       ั
                                     จากการศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยส่วนบุคคลกับการปรบตัวด้านอตมโนทัศน์
                                                                                            ั
                                                                                   ั
                       ของเจ้าหน้าที่ต ารวจ พบว่า ระดับการศึกษามีความสัมพันธ์กับการปรบตัวด้านอตมโนทัศน์ของ
                                              ั
                                                       ั
                       เจ้าหน้าที่ต ารวจ โดยการปรบตัวด้านอตมโนทัศน์ของเจ้าหน้าที่ต ารวจ แปรผันตามระดับการศึกษา
                       อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติระดับ 0.001  รวมถึงระยะเวลาในการปฏิบัติงานในสามจังหวัดชายแดน

                       ภาคใต้ และระดับชั้นยศ มีความสัมพันธ์กับการปรบตัวด้านอตมโนทัศน์ของเจ้าหน้าที่ต ารวจ โดย
                                                                           ั
                                                                  ั
                             ั
                       การปรบตัวด้านอตมโนทัศน์ของเจ้าหน้าที่ต ารวจจะแปรผันตามระยะเวลาในการปฏิบัติงานใน
                                      ั
                       สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างมีนัยส าคัญทางสถิตที่ระดับ 0.001 และการปรับตัว

                       ด้านอตมโนทัศน์ของเจ้าหน้าที่ต ารวจจะแปรผันตามระดับชั้นยศ อย่างมีนัยส าคัญทางสถิตที่ระดับ
                            ั
                       0.005 ในขณะที่การปรับตัวด้านอัตมโนทัศน์ของเจ้าหน้าที่ต ารวจจะแปรผกผันกับสถานภาพสมรส

                       อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001 สอดคล้องกับงานวิจัยของพูลศักดิ์  บุเกตุ  (2543) ที่ได้ศึกษา

                                                                            ั
                       เกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการปรบบทบาทของหัวหน้าส่วนราชการ
                       องค์การบริหารส่วนจังหวัดตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.  2540

                                      เมื่อศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยด้านเศรษฐกิจกับการปรบตัวด้านอตมโนทัศน์
                                                                                                ั
                                                                                       ั
                       ของเจ้าหน้าที่ต ารวจ พบว่า ความพอเพียงของรายได้มีความสัมพันธ์กับการปรับตัวด้าน

                                                              ั
                        ั
                                                                       ั
                       อตมโนทัศน์ของเจ้าหน้าที่ต ารวจ โดยการปรบตัวด้านอตมโนทัศน์ของเจ้าหน้าที่ต ารวจ แปรผัน
                       ตามความพอเพียงของรายได้ อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติระดับ 0.001 สอดคล้องกับงานวิจัยของดวง

                       เดือน มูลประดับ,  2540  :  71 กล่าวว่า รายได้แม้ไม่ใช่สิ่งที่จ าเป็นที่สุดในชีวิต แต่ก็เป็นปัจจัยที่มี

                       อิทธิพลต่อความสามารถในการปรับตัวและการด าเนินชีวิต ในการตอบสนองความต้องการพื้นฐาน

                       ของบุคคล เช่น อาหาร การสันทนาการ และฐานะทางสังคม ผู้มีรายได้ดีมีโอกาสแสวงหาสิ่งที่เป็น
   78   79   80   81   82   83   84   85   86   87   88