Page 78 - 022
P. 78

78








                                                                                 ู
                                                                               ิ
                        ุ
                                   ุ
                                                                        ้
                                            ุ
                                          ุ
                                                                            ู
                       อละมาอ์ในกล่มอะฮ์ลสสนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ การกล่าวราย ดหม่นดแคลนต่อเศาะหาบะฮ์ ก็ย่อม
                                                ู
                                      ้
                                                                                                       ื
                                          ู
                                             ิ
                                                           ์
                                                                  ิ
                                                                                                   ี่
                       เท่ากับการกล่าวราย ดหม่นดแคลนต่อสาสนแห่งอสลามด้วย เพราะเศาะหาบะฮ์ท าหน้าทเสมอน
                       เปนสอกลางของสาสนอสลาม การกล่าวหาว่าสอกลางบกพร่องย่อมแสดงให้เหนว่าส่งทน ามาด้วย
                                                                                               ิ
                        ็
                                                                                                 ี่
                                           ิ
                                                               ื่
                                                                                          ็
                                         ์
                           ื่
                                            ุ
                                             ี
                       นั้นบกพร่องด้วย ด้วยเหตน้อบู ซรอะฮ์ อัลรอซย์ (         ) ได้กล่าวไว้ว่า “หากผูใดเหนคน
                                                              ี
                                                                                                 ้
                                                                                                     ็
                                                  ุ
                       ทก าลังกลาวหาเศาะหาบะฮของทานนบ         ่     ่     ึ่  ่   ่     ้ ู  ิ  ่      ื
                                                         ี
                                                              ทานใดทานหนงวาบกพรอง จงรเถดวาคนๆ นั้นคอ
                                              ์
                                                   ่
                        ี่
                               ่
                       พวกซนดก (      )”  (Al-Alusi, 1997: 391-392)
                               ี
                                        1
                            ิ
                              แม้ว่าบรรดาเศาะหาบะฮ์มความประเสรฐทสงส่งแต่อย่างไรก็ตามนักวิจัยจ าเปนจะต้อง
                                                                                                  ็
                                                     ี
                                                                 ิ
                                                                    ี่
                                                                     ู
                                                            ึ
                                                          ิ
                       ระมัดระวังและมความชัดเจนในการอ้างองถงพฤตกรรมของบรรดาเศาะหาบะฮ์ เพราะบรรดาเศาะ
                                                                 ิ
                                     ี
                                                                               ู
                                                                 ื
                                                                                     ่
                                                                                     ึ
                                    ็
                       หาบะฮ์ไม่ใช่เปนผู้มะอ์ศูม (ปลอดจากบาป) เหมอนกับบรรดารสล  ซงบรรดาเศาะหาบะฮ์ก็ม     ี
                              ี่
                                                                                    ึ
                                                                                    ่
                                                                                                 ิ
                                                                                                        ็
                       โอกาสทจะกระท าความผิดได้ หากปรากฏว่าเศาะหาบะฮ์ท่านใดท่านหนงท าความผิดจรง นั่นเปน
                       ความผิดส่วนตัวของเศาะหาบะฮ์ท่านนั้น ซงไม่อาจท าลายความเปนอะดาละฮ์ของบรรดาเศาะ
                                                             ่
                                                             ึ
                                                                                 ็
                                                                     ุ
                       หาบะฮ์โดยรวมได้ อกทั้งเศาะหาบะฮ์ล้วนแต่เปนมจญ์ตะฮด (สามารถวินจฉัยกฎหมายได้)
                                                                  ็
                                          ี
                                                                                          ิ
                                                                            ิ
                                                  ิ
                                                                                             ิ
                       ข้อผิดพลาดทเกิดจากการอจญ์ตฮาดนั้นได้รบการอภัยจากพระเจ้า ดังทอบน ตัยมยะฮ์ได้ตอบข้อ
                                              ิ
                                                                                     ิ
                                  ี่
                                                                                    ี่
                                                                                        ุ
                                                            ั
                       ค าถามในเรองความขัดแย้งทเกิดข้นระหว่างเศาะหาบะฮ์ด้วยกันว่า “เรองราวต่างๆ ทกล่าวถงความ
                                                                                                    ึ
                                                   ึ
                                                                                  ื่
                                ื่
                                               ี่
                                                                                              ี่
                                                                                                    ื
                                                                         ื่
                       ขัดแย้งระหว่างบรรดาเศาะหาบะฮ์ด้วยกันนั้นส่วนใหญ่เปนเรองมดเท็จ  ส่วนข้อเท็จจรงนั้นคอ พวก
                                                                      ็
                                                                                              ิ
                                                      ี
                                            ั
                                                                       ู
                              ุ
                                     ี
                                                                                     ั
                                                                  ิ
                       เขาเปนมจญ์ตะฮด ส าหรบมจญ์ตะฮดแล้วหากวินจฉัยถกต้องเขาจะได้รบสองผลบญ แต่ถ้าหาก
                                                                                               ุ
                           ็
                                               ุ
                                                                                ั
                         ิ
                                          ั
                                                   ุ
                                              ่
                                              ึ
                       วินจฉัยผิด เขาก็จะได้รบหนงผลบญและความผิดของพวกเขาจะได้รบการให้อภัย” (Ibn Taymiyah
                       2005, Vol.IV, 264)

                                        ี
                                             ์
                       2.4 แนวคิดเกี่ยวกับสเราะฮ
                              2.4.1 นยามและขอบขายเน้อหาสเราะฮ  ์
                                                ่
                                    ิ
                                                    ื
                                                         ี
                              ค าว่าสเราะฮ์หรออัตชวประวัตนบมหัมมัด  ในภาษาอาหรบเรยกว่า “อัลสเราะฮ์ อัล
                                                         ิ
                                                             ุ
                                                                                   ั
                                            ื
                                                                                                 ี
                                                 ี
                                    ี
                                                            ี
                                                                                      ี
                                                                                   2
                       นะบะวียะฮ์ (           )” หรอเรยกอย่างย่อว่าอัลสเราะฮ์ (   )  ซงในทางภาษาหมายถง
                                                                                                        ึ
                                                                                     ่
                                                                                      ึ
                                                   ื
                                                      ี
                                                                      ี

                       1
                                                    ื
                                             ี
                                                                    ื
                        หมายถงพวกทปฏเสธวันอาคเราะฮ์ หรอไม่เชอในพระเจ้า หรอพวกทท าตัวภายนอกเหมอนกับผู้ศรทธาแต่ในใจ
                                                         ื่
                                                                                                ั
                                                                                        ื
                             ึ
                                                                          ี่
                                  ี่
                                     ิ
                             ้
                                                            ิ
                                       ิ
                        ซ่อนเรนด้วยการปฏเสธ (กุฟุร) คล้ายกับคนมุนาฟก (หน้าไหว้หลังหลอก) (Al-Zabidi, 1989b: 418)
                       2  ค าว่าอัลสเราะฮ์ (  ) ในภาษาอาหรบหากไม่ได้ระบชอของใครเปนการเฉพาะ โดยทั่วไปจะหมายถงสเราะฮ์
                                                                                                   ึ
                               ี
                                                                 ื่
                                                                          ็
                                                    ั
                                                                                                     ี
                                                                ุ
                                                                               ู
                                                                                                       ้
                        ของท่านนบมหัมมัด   (Yatim, 1997: 196) ในต ารายุคต้นมักใช้ค าน้ในรปพหพจน์คออัลสยาร (  ) พรอม
                                  ุ
                                                                            ี
                                                                                   ู
                                                                                        ื
                                 ี
                                                                                            ิ
                                                         ็
                                           ี
                                                                                       ่
                                                                                       ึ
                             ู
                        กับใช้ค่กับค าว่าอัลมะฆอสย์ (  ) กลายเปนสยารและมะฆอซย์ (    ) ซงให้ความหมายเท่ากับอัล
                                                            ิ
                                                                        ี
                        สเราะฮ์ (ดเพ่มเตมใน Hizmetli, 1991: 48)
                         ี
                                 ิ
                                ู
                                    ิ
   73   74   75   76   77   78   79   80   81   82   83