Page 170 - 022
P. 170
170
ุ
ี
์
็
ุ
ส่วนสะอด์ อบน อบ วักกอศ และอับดลเราะหมาน อบน เอาฟ เปนคนในตระกูลซะฮ์เราะฮ์
ฺ
ิ
ุ
ิ
ุ
ิ
ี
็
อบน กิลาบ ( ) ซงเปนตระกูลเดยวกันกับมารดาของท่านนบ อับดลเราะหมาน
ุ
์
่
ึ
ี
ิ
ิ
ิ
ี
็
ิ
็
ึ
เปนพี่น้องร่วมบดา มารดาเดยวกันกับนางอาตกะฮ์ บนต์ เอาฟ ซงเปนภรรยาของมัครอมะฮ์ อบน ุ
่
เนาฟล และมัครอมะฮ์นั้นเปนบตรชายของนางรก็อยเกาะฮ์ บนต์ ศ็อยฟย์ (Al-Zubayri, 1982: 262-
ี
็
ุ
ั
ิ
ุ
ี
ั
่
ิ
ี
ี
ึ
ิ
ิ
็
ิ
ู
263) ซงมศักด์เปนลกพี่ลกน้องของบดาของท่านนบ นางอาตกะฮ์เข้ารบอสลามก่อนสามของ
ู
นางคอ มัครอมะฮ์ และนางเปนหนงในรายชอผู้ให้การสัตยาบันต่อท่านนบ ตั้งแต่ในยุคมักกะฮ์
ึ
ื
ื่
็
ี
่
ี
ิ
ั
ั
ิ
(Ibn Sa‘d, 1990: 8/195) การเข้ารบอสลามของนางอาตกะฮ์น่าจะมปจจัยจากแม่ย้ายของนางด้วย
ิ
ี่
ุ
ุ
ี
เพราะมรายงานว่า นางรก็อยเกาะฮ์มความพยายามอย่างมากทจะให้บตรชายของนางเข้ารบอสลาม
ี
ั
(Ibn Sa‘d, 1990: 8/41)
ุ
ี
ุ
ุ
ิ
์
ี
ิ
นางอมม์ มสฏะห บนต์ อบ รฮม์ อบน อับดลมฏฏอลบ เปนหนงในบรรดาสตรทให้การ
ี่
ิ
ุ
ุ
็
ึ
่
ิ
ู
สัตยาบันต่อท่านนบ ในช่วงต้นๆ ของอสลามและนางมศักด์ ิเปนลกพี่ลกน้องกับท่านนบ
ี
ู
็
ิ
ี
ี
์
ื
ส่วนมารดาของอมม์ มสฏะฮ์คอ นางรอยฏะฮ์ บนต์ ศ็อคร อบน อามรก็เปนพี่น้องของมารดาของอบู
็
ิ
็
ิ
ุ
ิ
ิ
ุ
ุ
ื
ู
ู
์
ิ
บักร อัลศดดก (Al-Zubayri, 1982: 95) และลกพี่ลกน้องของนางอมม์ มสฏะฮ์ คอ อัลหารษ อบน
ิ
ิ
ุ
ิ
ี
ื
ิ
ุ
ิ
ิ
ิ
์
็
ิ
ุ
ุ
ิ
ุ
ิ
คอลด อบน ศ็อคร อบน อามร และภรรยาของเขาคอนางรอยฏะฮ์ บนต์ อัลหารษ อบน ญบัยละฮ์ ก็
็
ี่
ิ
ิ
ี
ุ
็
ุ
ี
ิ
เปนมสลมกล่มแรกๆ ทให้การสัตยาบันต่อท่านนบ และเปนผู้อพยพไปยังอบสสเนย (Ibn Sa‘d,
1990: 8/201)
ิ
ื่
ุ
ี่
ี่
บรรดาบตรชายทั้งสามท่านของนางอมัยมะฮ์ บนต์ อับดลมฏฏอลบทได้กับสามทมชอว่า
ี
ุ
ุ
ี
ุ
ิ
ุ
์
ุ
ิ
ุ
ุ
ุ
ื
ฺ
ิ
ิ
ุ
ญะหซ อบน รยาบ จากตระกูลอะสัด อบน คซัยมะฮ์ ( ) คอ อับดลลอฮฺ, อบัยดลลอฮ ฺ
และอบู อะหมัด ซงมศักด์เปนลกพี่ลกน้องของท่านนบ ก็เข้ารบอสลามก่อนทจะมศูนย์การเผย
ึ
ี่
่
ั
ู
็
ี
ิ
ิ
์
ู
ี
ี
1
ี
ี่
้
ิ
ี
ุ
ี
ุ
ุ
แผ่อสลามทดารลอัรกอมเสยอก นอกจากน้พวกเขาทั้งหมดพรอมนางอมม์ หะบบะฮ์ บนต์ อบ สฟ
ี
ิ
ี
็
ิ
ยานซงเปนภรรยาของอบัยดลลอฮก็อยู่ในรายชอมสลมกล่มแรกๆ ทอพยพไปยังอบสสเนย (Ibn
ี่
ื่
ี
ุ
ิ
ิ
ึ
ุ
่
ุ
ฺ
ุ
ี
ิ
ุ
‘Abd Al-Barr, 2006: 1/523) และมรายงานว่า บรรดาคนในตระกูลอะสัด อบน คซัยมะฮ์ทนาง อมัย
ุ
ี่
ุ
ู
ิ
ิ
ิ
็
มะฮ์ บนต์ อับดลมฏฏอลบเข้าไปเปนลกสะใภ้นั้นต่างก็เข้ารบอสลามกันทั้งตระกูลและพากันละท้ง
ิ
ุ
ุ
ั
ี
นครมักกะฮ์อพยพไปยังนครมะดนะฮ์ตามท่านนบ (Ibn Hazm, 1982: 190-192)
ี
1
ไม่ปรากฏรายงานทกล่าวถงปการเร่มต้นของยุคดารลอัรกอมอย่างชัดเจน แต่อย่างไรก็ตามเมอตรวจดแวดล้อม
ุ
ึ
ี่
ี
ู
ิ
ื่
ิ
ึ
ต่างๆ ทางประวัตศาสตรพบว่ายุคดารลอัรกอมน่าจะเร่มข้นในปลายปท 3 หรอปท 4 ของการประกาศเปนศาสดา
ุ
์
็
ื
ี
ี่
ี
ี่
ิ
็
่
ั
ซงเปนช่วงปลายของยุคการเผยแผ่อสลามอย่างลับๆ ส าหรบระยะเวลาของยุคดารลอัรกอมนั้นบางทัศนะเหนว่า
็
ิ
ึ
ุ
็
็
็
ื
ึ
่
ี่
ื
ู
ี
ื
เพียงหนงเดอนเท่านั้น ในขณะทบางทัศนะเหนว่าเปนเวลา 4 ป แต่ทถกต้องน่าจะเปน 19 เดอนหรอประมาณ 2
ี่
ิ
ุ
ิ
ี
ี่
ี
ี
ึ
ปโดยเร่มต้นจากปท 4 ของการประกาศเปนศาสดา จนถงอุมัร อบน อัลค็อฏฏอบเข้ารบอสลามในปท 6 ของการ
ั
็
ิ
ี่
็
ิ
ประกาศเปนศาสดา (ดเพ่มเตมใน Muhammad Ahmad Ziyadah, 2001: 124-125)
ู
ิ