Page 171 - 022
P. 171
171
็
ี่
ื
์
ึ
ทกล่าวมาทั้งหมดข้างต้นเปนส่วนหนงทแสดงให้เหนว่าความสัมพันธทางเครอญาต ิ
ี่
่
็
ื
ี่
์
ี
ิ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธทมสตรเปนสะพานเชอมต่อทางเครอญาตนั้นมอทธพลส าคัญใน
็
ี
ี
ื่
ิ
ิ
ิ
การแผ่ขยายศาสนาอสลาม
ุ
ิ
ุ
ึ
่
ิ
ส าหรบการเข้ารบอสลามของอมัร อบน อัลค็อฏฏอบผู้เปนเศาะหาบะฮ์อกท่านหนงทท่าน
ั
ั
ี่
ี
็
็
นบ รับรองเข้าสวรรค์และเปนเคาะลฟะฮ์อัรรอชดะฮ์คนทสองแห่งอาณาจักรอสลามก็มอทธพล
ี
ี
ี่
ิ
ิ
ิ
ี
ิ
ื
ิ
ิ
มาจากน้องสาว คอนางฟาฏมะฮ์ บนต์ อัลค็อฏฏอบอย่างชัดเจน อบน ฮชามได้อ้างรายงานจากอบน ุ
ิ
ิ
ิ
ุ
ึ
ั
ี
้
ิ
ุ
ิ
ุ
ิ
ิ
อสหาก เล่าถงการเข้ารบอสลามของอมัร อบน อัลค็อฏฏอบอย่างละเอยดว่า นางฟาฏมะฮ์พรอมกับ
ี
ิ
ุ
ั
ิ
ุ
ี
ิ
ื
ิ
สามของนางคอ สะอด อบน ซัยด์เข้ารบอสลามก่อนอมัร อบน อัลค็อฏฏอบ แต่ทั้งสองได้ปดบัง
ุ
็
ุ
ุ
ความเปนอสลามไว้ไม่ให้อมัรทราบ วันหนงอมัร อบน อัลค็อฏฏอบตัดสนใจทจะสังหารท่านนบ ี
ี่
ึ
ุ
่
ิ
ิ
ิ
ุ
ี
ึ
ี
่
เขาได้ถอดาบม่งหน้าไปหาท่านนบ ซงในขณะนั้นท่านนบ ก าลังรวมตัวอยู่กับบรรดาเศาะ
ื
หาบะฮ์กล่มหนงทบ้านหลังหนงทเขาศอฟา ระหว่างทางอมัรได้พบกับนอัยม์ อบน อับดลลาฮ อัล
ี่
ึ
่
ฺ
ี่
ุ
ุ
ุ
ิ
ึ
ุ
ิ
่
ุ
่
ั
1
นะหาม ซงได้ถามอมัรว่าจะรบไปไหน อมัรตอบว่า “ขาจะไปสงหารมุหมมัด ผูทท าใหการงานของ
้
ี่
้
้
ุ
ั
ึ
ี
่
์
ี
์
่
็
็
ิ
ิ่
็
ชาวกุรอยชแตกแยก ท าลายเกยรตยศของชาวกุรอยช ลบหลูดูหมนศาสนาของชาวกุรอยช และดาทอ
์
ตอพระเจาของชาวกุรอยช” ด้วยความเปนห่วงต่อท่านนบ นอัยม์ได้พยายามถ่วงเวลาและ
ี
์
่
็
้
ุ
็
้
ุ
ี่
ั
่
้
เบยงเบนความสนใจของอมัรโดยกล่าวเตอนว่า “ฉนขอสาบานตอพระเจาวา คณก าลังสรางความ
ุ
ื
่
ุ
ั
ั
ิ
่
ุ
่
ื
ุ
่
ุ
้
่
หายนะแกตัวของคณเอง ถาคณฆามุหมมัด คณคดหรอวาคนในตระกูลอบดุลมะนาฟจะปลอยคณให ้
่
ี
่
ั
ี
่
ุ
มชวตเดนอยูบนถนนไดกระนั้นหรอ? ท าไมคณไมกลับไปจดการกับคนในครอบครวของคณกอน
ุ
ิ
ื
้
ั
ิ
้
ุ
ั
ั
่
่
ุ
ละ?” อมัรถามว่า “ครอบครวของฉนคนไหน?” นอัยม์ตอบว่า “ฉนขอสาบานตอพระเจาวา นองสาว
้
ั
่
1 นอัยม์ อบน อับดลลอฮ อัลนะหาม ( ) ค าว่าอัลนะหาม หมายถงเสยงไอ ได้รบฉายานามน้เนองจากว่าท่าน
ิ
ี
ุ
ึ
ั
ี
ฺ
ื่
ุ
ุ
้
ุ
ี
้
นบ ได้กล่าวว่า “ฉนไดเขาไปในสวนสวรรค ฉนไดยนเสยงไอ และฉนพบวาเปนเสยงไอของนุอยม” นอัยม์
่
์
ั
็
ั
ี
้
ี
ั
์
ั
ิ
ุ
เข้ารบอสลามในช่วงต้นๆ ก่อนการอพยพไปยังอบสสเนย แต่ไม่ได้เปดเผยความเปนมสลม นอัยม์พรอมกับชน
ิ
ุ
ี
็
ิ
ิ
้
ิ
ั
ิ
ี
ี
ี
ี
์
เผ่าของเขาจ านวน 40 คนได้อพยพไปยังมะดนะฮ์ในป ฮ.ศ.ท 6 บางรายงานกล่าวว่าในปเหตุการณหดัยบยะฮ์
ี่
ุ
ิ
(Abu Nu‘aym, 1998: 5/ 2666) และในบางรายงานกล่าวว่าเขาคงอยู่ในนครมักกะฮ์จนกระทั่งก่อนเหตุการณพิชต
์
ุ
ุ
ี่
ี
มักกะฮ์เล็กน้อย สาเหตุทนอัยม์ไม่ได้อพยพไปยังนครมะดนะฮ์พรอมกับบรรดาเศาะหาบะฮ์ร่นแรกๆ ก็เพราะว่า
้
่
ประชาชนในเผ่าของเขาขอรองไม่ให้เขาละท้งพวกเขาไป ทั้งน้เพราะว่านอัยม์เปนผู้น าและเปนทพึงของชนใน
ุ
ิ
็
ี
็
ี่
้
ี
์
ุ
ั้
้
ี
เผ่าของเขา ด้วยเหตุน้ท่านนบ ได้กล่าวชนชมคนในเผ่าของนอัยม์ว่า “ผูคนในเผาของนุอยมนนดกวาผูคนใน
ื่
ี
่
้
ั
่
่
้
เผาของฉน เพราะวาพวกเขาไดปกปองนุอยมใหอยูในมาตุภมของเขา ในขณะทคนในเผาของฉนไดขับไล ่
้
้
ั
์
่
ั
่
ี่
่
ู
ิ
ั
้
ี่
ี
ั
ิ
ี
ี
ุ
ั
ี
ิ
เนรเทศฉนออกจากมาตุภูมของฉน” ส าหรบปการเสยชวิตของนอัยม์นั้น นักประวัตศาสตรมทัศนะทแตกต่างกัน
ั
์
็
ี
ี
บางท่านกล่าวว่าท่านถูกสังหารเปนชะฮดในสมรภูมอัจญ์นาดัยน์ในป ฮ.ศ. ท 13 ซงอยู่ในปลายการปกครองของ
่
ิ
ึ
ี่
่
ิ
ึ
ู
็
์
ี
เคาะลฟะฮ์อบ บักร ในขณะทบางท่านกล่าวว่าท่านเปนชะฮดในสมรภมยัรมกในป ฮ.ศ. ท 15 ซงอยู่ในช่วงการ
ู
ี
ู
ี
ี่
ี่
ปกครองของเคาะลฟะฮ์อุมัร (Ibn ‘Abd al-Barr, 2006: 2/301)
ี