Page 147 - 022
P. 147

147








                                                          1
                                                          ฺ
                                                                                        ึ
                                                                             ฺ
                       ของขวัญทถกประทานจากพระองค์อัลลอฮ  และพระองค์อัลลอฮทรงประกันถงผลการตอบแทนใน
                                ี่
                                 ู
                                                                                2
                                                   ิ
                                                            ิ
                                                                          ี
                                                                                                  ิ
                       การงานของเพศชายและเพศหญงอย่างยุตธรรมและเท่าเทยมกัน  นอกจากน้       ีศาสนาอสลามได้
                                                                                                     ื
                                         ์
                                                      ิ
                                                                  ี่
                                                                         ู
                                                                                              ึ
                                                                                              ่
                       ก าหนดความสัมพันธระหว่างเพศหญงกับเพศชายทจะต้องดแล ห่วงใยและเอาใจใส่ซงกันเสมอนพี่
                                                 ี่
                       น้องร่วมสายเลอดเดยวกัน ดังทท่านนบ  ได้มวจนะไว้ความว่า
                                                              ี
                                       ี
                                                       ี
                                   ื
                                                                                                3
                                 ้
                                        ี
                                   ิ
                                                         ิ
                                                                  ี
                                                                             ุ
                                                     ่
                                             ็
                                                ี่
                                                  ้
                              “แทจรงสตรนั้นเปนพนองรวมบดามารดาเดยวกันกับบุรษ”  (Al-Tirmidhi: 113)
                                                                                              ิ
                                                                           ุ
                                                                                 ี่
                                                                               ั
                                                                   ุ
                                     ี
                              ท่านนบ  ได้แสดงแบบอย่างในการเอ็นดบตรสาว ทกคร้งทกลับจากการเดนทางท่านนบ      ี
                                                                  ู
                                  ุ
                                              ิ
                                                                              ี
                                                                                     ี
                        จะเข้าไปจมพิตนางฟาฏมะฮ์ (‘Uthman, 2000: 88) นอกจากน้ท่านนบ  ได้กล่าวถงนางฟาฏ    ิ
                                                                                                 ึ
                       มะฮ์ไว้ว่า
                                                                                ))
                                                              ื
                                                              ้
                                                                                 ้
                                                           ื
                                              ์
                                                      ื
                                                                                                 ่
                                                                      ั
                                                                          ้
                                                                                           ื
                                           ิ
                              ความว่า  “ฟาฏมะฮมาจากเลอดเน้อเชอไขของฉน ผูใดท าใหนางโกรธเคองก็เทากับท าให  ้
                                       ื
                               ั
                              ฉนโกรธเคอง” (Bukhari: 3767)
                                          ี
                                                                             ุ
                                                                                         ็
                                                                         ู
                                                          ั
                                                                                       ี
                              การทท่านนบ  ได้แสดงความรกและความเอ็นดต่อบตรสาวเช่นน้เปนการลบล้างทัศนะ
                                   ี่
                                                            ุ
                                                                        ิ
                                           ั
                       คตเชงลบของชาวอาหรบญาฮลยะฮ์ทมต่อบตรสาวอย่างส้นเชง นอกจากศาสนาอสลามได้ยกย่อง
                                                       ี่
                                                ิ
                                                  ี
                         ิ
                                                        ี
                                                                                            ิ
                                                                           ิ
                           ิ
                                                             ิ
                                        ี
                                                ุ
                       เกียรตยศสตรเท่าเทยมกับบรษแล้ว ศาสนาอสลามยังเปดพื้นทให้สตรมส่วนร่วมในบทบาททาง
                                               ุ
                                                                             ี่
                                                                      ิ
                            ิ
                                  ี
                                                                                     ี
                                                                                   ี
                                                                              ์
                                                   ึ
                             ี
                                                                                                 ี
                                                                        ิ
                       สังคมเคยงค่กับบรษด้วย จากการศกษาหลักฐานทางประวัตศาสตรพบว่า บรรดาเศาะหาบยาตในยุค
                                     ุ
                                      ุ
                                 ู
                                                                                  ึ
                       สมัยของท่านนบ  มส่วนร่วมในบทบำทด้ำนสังคมอย่ำงชัดเจน ซงสำมำรถสรปเปนประเด็น
                                                                                             ุ
                                                                                  ่
                                          ี
                                                                                                ็
                                     ี
                       ส ำคัญๆ 3 ประเด็นดังรำยละเอยดต่อไปน้
                                                         ี
                                                ี
                                        ิ
                                                          ้
                                             ื่
                                    ่
                                                                     ื่
                                                                              ั่
                              4.2.1 สงเสรมในเรองความดีและหามปรามในเรองความชว
                                                                      ื่
                              การส่งเสรมในเรองความดและห้ามปรามในเรองความชั่วเปนเรองทส าคัญยิ่งในศาสนา
                                                                                         ี่
                                                     ี
                                                                                     ื่
                                       ิ
                                                                                  ็
                                            ื่
                             4
                                                                                               ั่
                                                             ้
                                             ี
                                                                  ิ
                                                                     ิ
                                                                                 ้
                                ิ
                                                               ้
                       อสลาม  อมามอัลฆอซาลย์กล่าวว่า “การใชใหปฏบัตความดและหามปรามความชวเปนแกนท            ี่
                                                                                                  ็
                                                                            ี
                        ิ
                                                                     ุ
                             ี่
                                                                                             ้
                                                                                                  ิ
                                                                  ิ
                       ส าคญทสดของศาสนา” (Al-Ghazali,  n.d.: 2/302) อบน ตัยมยะฮ์กล่าวว่า “การใชใหปฏบัตในความ
                                                                         ิ
                          ั
                               ุ
                                                                                                ิ
                                                                                          ้
                                                                                        ิ
                                                                                                        ็
                                                                              ึ่
                                                                     ิ
                                                                        ุ
                                                                                    ั
                                                   ิ่
                                                                                              ์
                                             ั่
                                                                                 ็
                        ี
                                                ็
                                                         ิ
                                                     ี่
                                                               ั
                       ดและหามปรามในความชวเปนสงทวาญบส าหรบมุสลมทกคน ซงเปนฟรฏกฟายะฮและกลายเปน
                             ้
                                                                                      ู
                                                     ่
                                 ้
                                                        ้
                                  ี่
                                                       ี
                                ่
                        ั
                                                               ิ
                                    ี
                       ฟรฏอนแกผูทมความสามารถหากไมมผูใดด าเนนการ” (Ibn Taymiyah, 2005: 28/ 41) อัลกุรอานได้
                            ี
                          ู
                                      ี
                              ี่
                                                                ี
                                                                                         ั
                       เปดพื้นทให้สตรมส่วนร่วมในการส่งเสรมความดและห้ามปรามความชั่วโดยตรสไว้ว่า
                                    ี
                        ิ
                                                        ิ

                       1
                                                       ู
                                       ฺ
                                         ั
                        ดังทพระองค์อัลลอฮตรสไว้ในอัลกุรอานสเราะฮ์ท 42 อัลชรอ โองการท 49-50
                                                            ี่
                                                                  ู
                           ี่
                                                                            ี่
                       2
                                                       ู
                                                                  ิ
                                                            ี่
                                         ั
                           ี่
                                       ฺ
                                                                            ี่
                        ดังทพระองค์อัลลอฮตรสไว้ในอัลกุรอานสเราะฮ์ท 4 อัลนสาอ์ โองการท 124
                       3
                                                    ์
                                              ี
                                         ็
                                                  ี
                        อัลอัลบานย์วินจฉัยว่าเปนหะดษศอฮห (Al-Albani, 2000b: 1/80)
                                   ิ
                               ี
                       4  ดอัลกุรอานสเราะฮ์ท 3 อาละอมรอน โองการท 104, 114 สเราะฮ์ท 9 อัลเตาบะฮ์ โองการท 71, 112 สเราะฮ์ท 22
                                                                                                 ู
                                              ิ
                                 ู
                                                                        ี่
                         ู
                                                                                         ี่
                                                          ี่
                                                                                                       ี่
                                                                  ู
                                       ี่
                                                                                                     ็
                        อัลฮัจญ์ โองการท 41 และดอัลหะดษทบันทกโดย Muslim: 49; Al-Tirmidhi: 2172; Abu Dawud: 1140 เปนต้น
                                                        ึ
                                                     ี่
                                                  ี
                                     ี่
                                            ู
   142   143   144   145   146   147   148   149   150   151   152