Page 29 - 016
P. 29

29






                       เพราะสูงสุดของความรู้ในทัศนะอิสลาม คือ การเรียนรู้และรู้จักพระผู้เป็นเจ้าของตนเองโดยผ่าน
                       กระบวนการเรียนรู้ที่ได้จากศาสตร์ต่าง ๆ เช่น แพทย์ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ นิเวศวิทยา

                       หรือศาสตร์อื่น ๆ
                         บัณฑิตย์  สะมะอุนและคณะ (            2549: 22-24) กล่าวถึงกระบวนการศึกษาและความรู้

                       ของอิสลามวางอยู่บนมาตรฐานและตัวชี้วัด 4 ประการ คือ

                                            1.  อัล-กุรอาน เป็นคัมภีร์ที่ประทานมาจากพระเจ้า (อัลลอฮ) เป็นคัมภีร์
                                                                                              ฺ
                       เล่มสุดท้ายส าหรับโลกนี้ คัมภีร์ที่ส าคัญของอิสลามมีหลายเล่มและถือว่าเป็นคัมภีร์ที่ประทานมาจาก

                       พระเจ้าเช่นเดียวกัน เช่น ซาบูร (ประทานแก่ศาสดาดาวุดหรือเดวิด) อินญีล/ไบเบิ้ลใหม่
                       (ประทานให้แก่ศาสดาอีซาหรืเยซู) เตารอต/ไบเบิ้ลเก่า (ประทานให้แก่ศาสดามูซาหรือโมเซส) และ

                       อัล-กุรอาน (ประทานให้แก่ศาสดามูฮัมหมัด)

                         อัล-กุรอานเป็นคัมภีร์ที่ยืนยันในอดีตของอิสลามทั้งหมด        ซึ่งคัมภีร์ในอดีตนั้นมีการ
                       เปลี่ยนแปลงทั้งตัวบทและความหมาย อัล-กุรอานจึงเป็นมาตรฐานของบรรดาคัมภีร์ในอดีตแต่ไม่ใช่มี

                       เปูาหมายเพื่อการปฏิเสธคัมภีร์ในอดีตทั้งหมด เพราะบางส่วนยังเป็นหลักฐานอ้างอิงให้กับคัมภีร์

                       อัล-กุรอานได้ นอกจากนั้นคัมภีร์ในอดีตยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่อัล-กุรอานไม่ได้
                       กล่าวไว้แต่หากมีความขัดแย้งเกิดขึ้นก็ให้ใช้อัล-กุรอานเป็นมาตรฐาน

                                            2.  ซุนนะห์ คือ แบบอย่างของค าพูด การกระท าของศาสดามูฮัมหมัด
                       ในช่วงที่ท่านยังมีชีวิตอยู่   ซึ่งเป็นการอธิบายด้วยบทของอัล-กุรอาน ให้มีความละเอียดและชัดเจน

                       ยิ่งขึ้น โดยศาสดามูฮัมหมัดมีหน้าที่อธิบายความหมายของอัล-กุรอานแก่ประชาชาติให้ครบถ้วน

                       สมบูรณ์ อัล-กุรอานจึงเป็นตัวบท ส่วนซุนนะห์เป็นค าอธิบายตัวบทของอัล-กุรอานอีกขั้นตอนหนึ่ง ทั้ง
                       สองส่วนนี้เป็นองค์ประกอบส าคัญที่มุสลิมต้องยึดมั่นและเป็นแนวทางในการด าเนินชีวิตของมุสลิม

                                            3.  อิจมาอ์อุลามาอ์ คือ การตีความปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากท
                                                                                                    ี่
                       ศาสดามูฮัมหมัดสิ้นชีวิตแล้ว เพราะในช่วงที่ท่านศาสดายังมีชีวิตอยู่ศาสดาจะเป็นผู้ให้ค าตอบต่อ

                       ปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยตัวของท่านเอง เมื่อท่านเสียชีวิตลง หน้าที่นี้ตกอยู่ในบรรดาอุลามาอ์

                       (ผู้รู้ศาสนาระดับสูง) บรรดาผู้จะร่วมกันระดมความคิด และหาทางออกต่อปัญหาที่เกิดขึ้นให้ตรงและ
                       สอดคล้องกับอัล-กุรอาน และซุนนะห์มากที่สุด จนออกมาเป็นมติจากบรรดาผู้รู้ ในส่วนนี้เรียกว่า

                                                          ์
                       “อิจมาญ์” ดังนั้นค าว่า   “อิจมาอ์อุลามาอ” จึงหมายถึง มติของบรรดาผู้รู้โดยการหาทางออกให้แก่
                       ปัญหาที่เกิดขึ้น มติที่ออกมาจากบรรดาผู้รู้นี้เป็นมติส่วนใหญ่ทั้งที่เอกฉันท์และไม่เอกฉันท์โดยน ามา
                       จากหลักฐานของอัล-กุรอานและซุนนะห์

                                            4.  กียาส คือ การเปรียบเทียบกับปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับ
   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34