Page 180 - 015
P. 180
172
ั
็
ุ
ุ
บรหารงานบคคลโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สังคมปจจบันมความก้าวหน้าทางวิทยาการอย่างรวดเรวยิ่งท า
ี
ิ
็
ิ
ี
ี
ิ
ี
ึ
ึ
ให้การฝกอบรมมความจ าเปนและมความส าคัญมากข้น ดังนั้น ผู้บรหารควรส่งเสรมให้มการ
์
ิ
ื่
ึ
ิ
์
ฝกอบรมอย่างต่อเนอง สอดคล้องกับแนวคดของ เรงลักษณ โรจนพันธ (2539 : 9) กล่าวว่า
ิ
ึ
ิ
้
การฝกอบรมเพื่อให้บคคลเกิดความรความช านาญ และมเจตคตทดต่อการปฏบัตงานนั้น ถอว่าเปน
ิ
ี
ู
ี
ุ
ื
ี่
็
ุ
ี่
่
ึ
ึ
ื่
ึ
ึ
การลงทนทส าคัญอย่างหนง เนองจากการฝกอบรมช่วยให้ผู้ผ่านการฝกอบรมท างานได้ง่ายข้น
ู
ิ
ิ
ี่
ใช้เวลาในการปฏบัตงานน้อยลง ลดค่าใช้จ่ายทเกิดข้นจากความสญเสยจากการขาดความรและ
ึ
้
ู
ี
ประสบการณ” ซงผลการทดสอบเปรยบเทยบพบว่า บทบาทของอหม่ามอยู่ในระดับมากสดคอ
ี
ี
ึ
่
ื
ุ
์
ิ
ี
ื
ื
วุฒการศกษาปรญญาตร รองลงมาวุฒการศกษาอนปรญญาหรอเทยบเท่า และประถมศกษาหรอ
ิ
ึ
ี
ึ
ิ
ุ
ิ
ึ
ิ
ื่
ี
เทยบเท่า เมอพิจารณาเปนรายด้าน พบว่า บทบาทของอหม่ามมความแตกต่างกันอย่างมนัยส าคัญ
ิ
ี
ี
็
ิ
ทางสถต ในด้านงานวิชาการ ด้านงานบคคล ด้านงานกิจกรรมผู้เรยน และด้านงานธรการและ
ี
ุ
ิ
ุ
การเงน ส่วนด้านความสัมพันธชมชนไม่แตกต่างกัน
์
ิ
ุ
ิ
5.2.4.3 ผลการเปรยบเทียบตามตัวแปรประสบการณการบรหารศูนยฯ (ตาดีกา)
์
์
ี
็
ต่างกัน ในภาพรวมไม่แตกต่างกัน ทั้งน้อาจเปนเพราะอหม่ามได้ใช้ระยะเวลาสั่งสมประสบการณ ์
ิ
ี
็
ิ
ู
้
แสวงหาความรเพื่อพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา เปนการแสดงให้เหนว่าอหม่ามรจักบทบาทหน้าท ี่
ู
้
็
ึ
ิ
รวมถงความรบผิดชอบ และสามารถบรหารจัดการอย่างเต็มศักยภาพ สอดคล้องกับงานวิจัยของ
ั
ี
ั
ุ
ั
ึ
ุ
ิ
ศร จันบ ารง (2549 : 82) พบว่า ผู้บรหารสถานศกษาในปจจบันมการได้รบการพัฒนาความร ู ้
ิ
ิ
็
ู
ความสามารถจากหลายสถาบันไม่ว่าจะเปนการอบรม การศกษาในระดับสงๆ เปนการเพิ่ม
ึ
็
ิ
ิ
์
ประสบการณให้ผู้บรหาร สอดคล้องกับงานวิจัยของ ณรงค์ แย้มประดษฐ์ (2541 : 90) พบว่า
ื่
์
ิ
ิ
ิ
ี
ู
ผู้บรหารเมอเข้าส่ต าแหน่ง แม้จะมประสบการณทางการบรหารต่างกัน แต่ทักษะการบรหารงานไม่
์
้
ู
แตกต่างกัน เพราะประสบการณในการเรยนรงานนั้นจะท าให้ผู้บรหารเข้าใจบทบาทหน้าท วิธการ
ี
ิ
ี่
ี
ี
ิ
ี
และการด าเนนการให้เกิดความส าเรจส่เปาหมายทวางไว้ ซงผลการเปรยบเทยบพบว่า บทบาทของ
่
็
ี่
้
ึ
ู
อหม่ามอยู่ในระดับมากสดคอ ประสบการณบรหารศูนย์ฯ (ตาดกา) 6-10 ป รองลงมา 11 ปข้นไป
ึ
ี
ี
ี
ิ
ื
ิ
์
ุ
ี
ื่
็
ี
และ 1-5 ปตามล าดับ เมอพิจารณาเปนรายด้าน พบว่า บทบาทของอหม่ามมความแตกต่างกันอย่างม ี
ิ
ุ
ิ
ิ
ิ
์
ุ
นัยส าคัญทางสถต ในด้านธรการการเงนและด้านความสัมพันธชมชน
5.2.4.4 ผลการเปรยบเทียบตามตัวแปรขนาดของศูนยฯ (ตาดีกา) ต่างกัน ใน
ี
์
ภาพรวมไม่แตกต่างกัน ทั้งน้ ีอาจเปนเพราะปจจบันอหม่ามได้รบการพัฒนาด้านความร ู ้
ิ
ั
ั
ุ
็
่
ึ
ิ
ิ
ความสามารถทั้งในเชงวิชาการและเชงการบรหารงานอย่างต่อเนองสม าเสมอทกคนจงท าให้ขนาด
ื่
ิ
ุ
ึ
ิ
ี
ี่
ี
ิ
ศูนย์ฯ(ตาดกา)ต่างกัน มระดับบทบาทการปฏบัตงานทไม่แตกต่างกัน ซงสอดคล้องกับงานวิจัยของ
่
ิ
ึ
ั
ิ
ี
ั
ิ
ุ
ุ
ศร จันบ ารง (2549 : 82) พบว่า ผู้บรหารสถานศกษาในปจจบันมการได้รบการพัฒนาความร ู ้