Page 20 - 0018
P. 20

12



                              3) มีการประเมินประโยชน์หรือผลกระทบของการให้บริการทางวิชาการต่อสังคมว่า สอดคล้อง
                                                           ้
                                                                                       ึ
               กับความต้องการของผู้รับบริการทั้งทางตรงและทางออม มีการประเมินผลที่เกิดกับนักศกษา อาจารย์และบุคลากร
               ผู้ให้บริการ ทั้งในด้านการนำความรู้ความเชี่ยวชาญ ไปใช้ประโยชน์ การสื่อสาร การชี้แจงแนะนำให้ผู้รับบริการ
               และประชาชน

                              4) มีการนำผลการประเมิน ไปพัฒนาระบบและกลไก หรือกิจกรรมการให้บริการทางวิชาการมี
               การนำผลการประเมิน การให้บริการทางวิชาการไปพัฒนาคุณภาพมาตรฐานของการให้บริการ โดยระบบและกลไก
               การให้บริการ ประกอบด้วยรูปแบบการให้บริการ ขอบเขตการให้บริการค่าใช้จ่ายระยะเวลาในการให้บริการ
               สัญญาการบริการ ซึ่งรวมทั้งการควบคุมและการกำกับคุณภาพของการให้บริการ โดยจัดให้มีระบบให้ข้อมูลที่

               ชัดเจน มีความเป็นธรรมโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้

                              5) มีการพัฒนาความรู้ที่ได้จากการให้บริการทางวิชาการและถ่ายทอดความรู้สู่บุคลากรภายใน
               สถาบัน และเผยแพร่สู่สาธารณชน สถาบันมีการพัฒนาความรู้ที่ได้จากการให้บริการทางวิชาการ ส่งเสริมให้เกิด
               กระบวนการในการถ่ายทอดความรู้ไปสู่บุคลากรภายในสถาบัน ซึ่งรวมทั้งผู้เรียนด้วย จัดให้มีการแลกเปลี่ยน

               ความคิดและเผยแพร่ประสบการณ์ในการให้บริการผ่านทางสื่อการเรียนรู้ต่างๆ รวมทั้งจัดทำฐานข้อมูลการบริการ
               วิชาการเผยแพร่สู่สาธารณะชนในการให้บริการทางวิชาการในลักษณะห่วงโซ คุณภาพที่สนองความต้องการและ
               เป็นที่พึ่งของชุมชน ภาครัฐ ภาคเอกชน หน่วยงานวิชาชีพสังคมได้อย่างมีคุณภาพตามศักยภาพและความพร้อม

               ตามจุดเน้นของสถาบัน

                       กล่าวโดยสรุปได้ว่า กระบวนการของงานบริการวิชาการแก่สังคม เป็นการวางแนวทาง ขั้นตอน และ

               หลักเกณฑ์การให้บริการวิชาการที่เป็นระบบ จัดโครงสร้างสถาบัน เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนระบบ อีกทั้งยัง
               ต้องสัมพันธ์กับพันธกิจ เอกลักษณ์ ยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัย ในการดำเนินโครงการต้องมุ่งเสริมสร้าง การ

               พัฒนา เผยแพร่ความรู้ ทักษะเชิงวิชาการหรือวิชาชีพแก่ชุมชน ท้องถิ่น หรือสังคม อีกทั้งการให้บริการทางวิชาการ
               ต้องมีความเชื่อมโยงกับการจัดการเรียนการสอนและการวิจัย และสามารถบูรณาการงานบริการทางวิชาการแก่

               สังคมกับการเรียน การสอนและการวิจัยอย่างเป็นรูปธรรม

               2.3 แนวคิด/ทฤษฎีเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะอาชีพ
                       เพ็ญนภา กุลนภาดล และคณะ (2559) ได้สรุปทฤษฎีพัฒนาการด้านอาชีพของทีดแมนและโอฮารา

               (Tiedeman and O, Hara ,s Theory of Career Development) David V. Tiedeman and Robert P. O
               ,Hara ได้สร้างทฤษฎีการพัฒนาอาชีพ ขึ้นโดยอาศัยทฤษฎีการพัฒนาบุคลิกภาพของอิริคสัน (Erikson ,s Theory

               of Personality Development) เป็นพื้นฐาน นอกจากนี้ทีดแมนและโอฮารายังได้แนวความคิดจากกินซ์เบอร์ก
               และซูเปอร์มาสร้างทฤษฎีจึงทำให้ ทฤษฎีของเขาเป็นทฤษฎีพัฒนาการด้านอาชีพที่เน้นทั้งด้านการตัดสินใจเลือก

               อาชีพและการปรับตัวในอาชีพ ของบุคคลทีดแมนและโอฮารา เห็นว่าพัฒนาการด้านอาชีพเป็นกระบวนการที่ต้อง
               สร้างเอกลักษณ์ด้านอาชีพ เมื่อบุคคลต้องเผชิญกับงานเขาได้อธิบายว่าประสบการณ์ใหม่ ๆ ทำให้บุคคลสร้าง

               เอกลักษณ์ด้านอาชีพขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างเอกลักษณ์ในการทำงานของตนเอง เพื่อให้ตนเองสามารถอยู่ในสังคมได้
                                                                                                          ่
               จากการสร้างเอกลักษณ์ของตนเอง เป็นปรากฏการณ์ทางด้านจิตวิทยาและสังคมวิทยาพัฒนาการด้านอาชีพทีเน้น
   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25