Page 85 - 001
P. 85
74
ขึ้นอยู่กับความจำเป็น อาจมี 12,16,20 หรือมากกว่านั้นก็ได้ และไม่จำเป็นต้องอยู่ในเมืองหลวง
ทั้งหมด จะส่งไปตามหัวเมืองต่าง ๆ มนตรีเหล่านี้ต้องควบคุมส่วนราชการคนละส่วน เช่น บัญชี
์
ทรัพย์สิน ผลิตภัณฑจากป่าและสิ่งทอ การเพาะปลูก ปศุสัตว์ การค้าขาย การเก็บภาษี การคุม
ทัพทหาร และกองทหารราบ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งสำคัญอื่น ๆ เช่น ปุโรหิต เป็น
พราหมณ์ คอยให้คำปรึกษา ในกรณีฉุกเฉินกษัตริย์จะต้องปรึกษากับมนตรีและคณะเสียก่อนที่
จะสั่งการอะไรลงไปได้ นั้นคือกษัตริย์ไม่สามารถทำอะไรลงไปโดยพลการ
ส่วนการปกครองตามระบอบสาธารณรัฐ ระบบนี้มีชื่อเรียกว่า คณะหรือหมู่ มีสภา
สมาชิกสภา ประกอบด้วยผู้มีอาวุโส และคนหนุ่ม บรรดาสมาชิกจะประชุมกันเพื่อปรึกษาหารือ
เกี่ยวกับการปกครองรัฐ ลักษณะของแต่ละสาธารณรัฐมีความแตกต่างกันคือ บางสาธารณรัฐ
ปกครองโดยเผ่าชนชาติสกุลของตน บางสาธารณรัฐมีการปกครองแบบประชาธิปไตย บาง
สาธารณรัฐรวมตระกูลต่าง ๆ มากมาย แต่บางสาธารณรัฐกำหนดเฉพาะตระกูลเดียวกัน แต่ละ
สาธารณรัฐมีสภาของตนเอง สภาทำหน้าที่ร่างกฎหมาย กฎหมายที่จะนำออกมาใช้ได้นั้นต้อง
ได้รับเสียงเป็นเอกฉันท์ สภานั้นมีทั้งสภาส่วนกลางและส่วนประจำท้องถิ่น หัวหน้าของรัฐซึ่ง
ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งชั่วคราว (มีกำหนดเป็นปี) ทำหน้าที่หัวหน้าผู้บริหาร หัวหน้า
สมาชิกสภาเรียกว่าราชัน ซึ่งสามารถแบ่งแคว้นต่าง ๆ ได้รายชื่อต่อไปนี้
1. แคว้นอังคะ (Anga) ตั้งอยู่ตอนปลายของแม่น้ำคงคา มีแม่น้ำเล็ก ๆ คือ แม่น้ำจัม
ปาไหลผ่าน มีเมืองหลวงชื่อมาลินี แคว้นอังคะสมัยพทธกาลเป็นแคว้นที่ใหญ่และรุ่งเรือง เป็น
ุ
ศูนย์กลางการค้าขายตอนหลังตกอยู่ภายใต้การปกครองของแคว้นมคธ
2. แคว้นมคธ (Magadha) เป็นแคว้นที่ยิ่งใหญ่และมีอำนาจทางการเมืองสูงสุดใน
สมัยพทธกาล มีเมืองราชคฤห์เป็นเมืองหลวง เป็นแคว้นแรกในบรรดา 16 แคว้น ที่ประสบ
ุ
ความสำเร็จในการสร้างความยิ่งใหญ่และความเป็นใหญ่ในภาคเหนือของอินเดียโบราณ กษัตริย์
ิ
ิ
ที่มีชื่อเสียงในแคว้นมคธคือ พระเจ้าพมพสาร พระองค์ทรงปกครองบ้านเมืองด้วยความสน
พระทัยในการปรับปรุงบ้านเมืองให้งดงาม ปรับปรุงการคมนาคมภายในประเทศ ปรับปรุงกอง
ทหารให้เข้มแข็ง พระองค์รักสันติสุข และได้ทำสัมพันธไมตรีกับประเทศใกล้เคียง อย่างไรก็ตาม
พระเจ้าพมพสารได้ถูกพระราชโอรสคือพระจ้าอชาตศัตรูจับปลงพระชนม์และขึ้นครองราชย์
ิ
ิ
ุ
ิ
ิ
แทน คัมภีร์พทธศาสนาและเชนได้บรรยายถึงความกว้างใหญ่ของแคว้นของพระเจ้าพมพสาร
และพระเจ้าอชาตศัตรูว่าคลุมพื้นที่บริเวณลุ่มแม่น้ำคงคาทั้งหมด
3. แคว้นกาสี (Kasi) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของแคว้นมคธ มีเมืองหลวงชื่อว่าพาราณสี
ุ
หรือวาราณสี (Varanasi หรือ Banaras) ซึ่งในสมัยพทธกาลเป็นเมืองใหญ่และเจริญมาก เป็น
ศูนย์กลางการค้าที่สำคัญ นอกจากนี้แคว้นกาสียังเป็นศูนย์กลางของนักปราชญ์ต่าง ๆ ด้วย เมื่อ
ครั้งที่พระพทธเจ้าทางแสดงธรรมเป็นครั้งแรกที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวันก็อยู่ที่แคว้นกาสี ต่อมา
ุ
แคว้นกาสีได้ถูกปราบโดยแคว้นโกศล
4. แคว้นโกศล (Kosala) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของแคว้นมคธโดยมีแคว้น
กาสีคั่นอยู่ แคว้นนี้แบ่งออกเป็น 2 ภาค ภาคเหนือมีเมืองหลวงชื่อศราวัสตี ภาคใต้มีเมืองหลวง
ชื่อกุศาวตี เมื่อปราบแคว้นกาสีได้ทำให้โกศลมีอาณาเขตกว้างขวางมาก กษัตริย์ที่มีชื่อเสียงของ
โกศลคือ พระเจ้าประเสนชิต ซึ่งอยู่ร่วมสมัยกับพระพทธเจ้า ในช่วงบั้นปลายของชีวิตพระเจ้า
ุ