Page 80 - 001
P. 80

69


                           โบราณวัตถุที่ทำด้วยกระดูกและงาช้างก็ขุดพบเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะทำเป็นปิ่น

                   ปักผมและหวี สำหรับงาช้างนั้นก็จะมีแบบเรียบและแบบที่มีลวดลายสลักอยู่ตอนบน ซึ่งจะ
                   ตกแต่งด้วยลวดลายต่างๆ เช่น ลายเส้นวงกลมมีจุดอยู่ข้างใน เส้นวงกลมซ้อมกันหลายวง ลาย
                   ดอกไม้ ลายรูปเป็ด รูปบุคคลและสัญลักษณ์ที่เป็นมงคล (เช่น รูป สิงห์ ช้าง สังข์ เป็นต้น) และที่

                   สลักเป็นรูปบุคคลทั้งเพศชายและเพศหญิงก็พบมาก นับว่าเมืองวิทิศาเป็นศูนย์กลางของงาน
                   ประเภทงาช้างแกะสลักและส่งเป็นสินค้าออกไปขายยังซีกโลกตะวันตกและด้านตะวันออก

                          อุปกรณ์กีฬาประเภทต่างๆ ก็ได้จากการขุดค้นชั้นวัฒนธรรมในยุคนี้ด้วย มีเบี้ยดินเผา
                   ลูกเต๋า (ทำด้วยหิน กระดูก งาช้าง และดินเผา) และตัวหมากรุก (ทั้งที่เป็นดินเผา กระดูก และ
                   งาช้าง) สำหรับเบี้ยดินเผานั้นจะเป็นแผ่นกลมแบนทำมาจากชิ้นส่วนภาชนะดินเผาที่แตก โดย

                   นำมาแต่งริมให้เป็นรูปกลม สันนิษฐานว่าเป็นอุปกรณ์กีฬาประเภทต้องเต (hop scotch) ส่วน
                   ลูกเต๋าที่ขุดพบในชั้นวัฒนธรรมสมัยเหล็กตอนปลายนั้น ส่วนใหญ่ทำด้วยกระดูกและงาช้าง โดย

                   ทำเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือเป็นแท่งยาวมี 4 หน้า แต่ละหน้าสลักเป็นเป็นจุด 1, 2, 3 และ 4
                   จุด แต่ละจุดจะมีเส้นรอบวงล้อมรอบ ลูกเต๋านี้ใช้คู่กับแผ่นไม้ตีเป็นตาราง 8 แถว แถวละ 8 ช่อง
                   รวมเป็น 64 ช่อง เป็นการพนันชนิดหนึ่งที่นิยมกันมากในอินเดียตั้งแต่ช่วงยุคเหล็กตอนปลาย

                   เป็นต้นมา พบตัวหมากรุกที่ทำด้วยกระดูก งา และดินเผา กีฬาหมากรุกนี้เปอร์เซียเรียนไปจาก
                   อินเดียในราวคริสต์ศตวรรษที่ 6 และเมื่ออาหรับปราบเปอร์เซียได้ กีฬานี้ก็แพร่ไปทั่วเอเชียกลาง

                   หลังจากนั้นพวกมุสลิมในสงครามครูเสดได้นำไปแพร่ในยุโรปในยุคกลางและกลายเป็นกีฬา
                   หมากรุกไป
                          อาชีพหลักของประชากรยุคเหล็กตอนปลายคือการเพาะปลูกและการเลี้ยงสัตว์ สำหรับ

                                                                                               ื
                                                                                    ่
                                   ื
                    ื
                   พชที่ปลูกก็เป็นพชที่ปลูกสืบกันมาคือ ข้าว ข้าวสาลี ข้าวบาเลย์ ข้าวฟาง ผักและพชเมล็ด
                                     ื
                   สำหรับผลิตน้ำมันพช ปลูกอ้อยเพอผลิตน้ำตาลส่งเป็นสินค้าออก ถั่วชนิดต่าง ๆ เครื่องเทศ
                                                  ื่
                   (พริกไทย ขิง อบเชย กระวาน)  ปลูกฝ้ายเพื่อใช้ทอผ้า ผลไม้ชนิดต่าง ๆ ที่ขึ้นชื่อ คือ มะม่วงซึ่งมี
                   หลายพันธุ์และมีรสดี นอกจากนั้นก็มีพืชประเภทปาล์ม ไม้จันทน์ ไม้หอมและหญ้าฝรั่น
                          สัตว์เลี้ยงพนเมืองก็มีวัว ควาย แพะ แกะ ส่วนม้านั้นจะเลี้ยงในแคว้นสินธ์และภาค
                                    ื้
                   ตะวันตกเฉียงเหนือแต่ส่วนใหญ่นำเข้ามาจากเปอร์เซียและอาระเบีย เพอให้กษัตริย์ใช้ในการ
                                                                                   ื่
                   สงคราม ช้างก็เช่นกันเลี้ยงไว้ใช้ในสงคราม อูฐอยู่ในแถบเดคข่านไว้ใช้ในที่ทุรกันดาร ส่วนลาไว้

                   ใช้ในเขตร้อน สุนัขเป็นสัตว์เก่าแก่ในมหากาพย์มหาภารตะว่าเป็นพาหนะที่ยุษฐีระใช้ขี่ไปสวรรค์
                   นกยูงเดิมเป็นอาหารจานโปรดของกษัตริย์โดยเฉพาะพระเจ้าอโศก ต่อมาเมื่อชาวอินเดียเป็น
                   มังสวิรัติ หางนกยูงจึงกลายเป็นเครื่องประดับไป นกแก้วจัดเป็นสัตว์เลี้ยงที่นิยมในสตรีสูงศักดิ์

                   ส่วนตัวไหมเลี้ยงมากในแคว้นเบงกอลและอัสสัมเพื่อเอาเส้นไหมมาทอผ้า (สันนิษฐานว่ามาจาก
                   จีนผ่านทางพม่าในราว 500 ปีก่อนคริสตกาล)

                          นอกจากการเพาะปลูกและการเลี้ยงสัตว์แล้ว ยังมีงานอุตสาหกรรมที่ดำเนินงานโดย
                   รัฐบาล มีโรงงานปั่นด้าย ทอผ้า โรงงานทำอาวุธและเครื่องใช้ในการสงคราม เหมืองแร่ต่างๆ แต่
                   อุตสาหกรรมระดับครอบครัวก็มี เช่น  อุตสาหกรรมปั้นหม้อ งานฝีมือต่าง ๆ โดยมีรัฐบาลเป็นผู้

                   ควบคุมราคาและคุณภาพของสินค้าประเภทต่างๆด้วย
   75   76   77   78   79   80   81   82   83   84   85