Page 77 - 001
P. 77
66
บทที่ 6
สมัยเหล็กหรืออินเดียสมัยพุทธกาล
หลังจากชาวอารยันเข้ามาตั้งมั่นในอินเดียอย่างมั่นคงแล้ว พฒนาการทางอารยธรรม
ั
ิ่
ของประชาชนในอินเดียเพมสูงขึ้นตามลำดับ อย่างไรก็ดี ในช่วงประมาณ 2,800 – 2,400 ปี
มาแล้ว หรือ 300 ปีก่อนพทธกาล – พทธศตวรรษที่ 2 ยังถือว่าเป็นสมัยก่อนประวัติศาสตร์อยู่
ุ
ุ
โดยในช่วงเวลาดังกล่าว นักโบราณคดีเรียกยุคสมัยนี้ว่า “สมัยเหล็กตอนต้น” ในขณะที่นัก
ประวัติศาสตร์จะเรียกว่า “สมัยก่อนสมัยราชวงศ์โมริยะ” ต่อมาในช่วงพทธศตวรรษที่ 3-5
ุ
ั
(350-50ปีก่อนคริสตกาล) ช่วงนี้พฒนาการทางอารยธรรมของประชากรสูงขึ้น นักโบราณคดี
1
เรียกสมัยนี้ว่า “สมัยเหล็กตอนปลาย” นักประวัติศาสตร์เรียกว่า “สมัยราชวงศ์โมริยะ-ศุงคะ”
สภาพสังคมในสมัยยุคเหล็กตอนต้น-ตอนปลาย
ุ
จากหลักฐานทางโบราณคดีจะพบว่าในช่วงต้นพทธกาล อารยธรรมของประชากรใน
อินเดียยังจัดอยู่ในระดับสังคมชนบท (rural community) นักโบราณคดีเรียกยุคนี้ว่า “สมัย
เหล็กตอนต้น” ยังคงพบเครื่องมือเครื่องใช้ทองแดง ซึ่งสืบต่อมาจากยุคทองแดงอยู่ แต่เริ่ม
ปรากฏเครื่องมือเครื่องใช้เหล็กแล้ว มีการตั้งถิ่นฐานเป็นหมู่บ้านเล็กๆกระจายตัวไปตามริมฝั่ง
แม่น้ำคงคาตอนบน สำหรับด้านสาธารณสุขนั้น ได้มีการขุดบ่อน้ำทิ้งที่ยังไม่มีการบุผนังบ่อด้วย
วงแหวนดินเผา ก่อสร้างบ้านเรือนด้วยไม้บนพนดินอัด (มีร่องรอยหลุมเสาไม้) และมีการสร้างคู
ื้
น้ำและคันดินล้อมรอบเมืองเพื่อป้องกันน้ำท่วม
เครื่องมือเครื่องใช้เหล็กที่พบจากการขุดค้นเมืองโบราณในบริเวณลุ่มแม่น้ำคงคามีเป็น
จำนวนมาก เป็นต้นว่า หัวลูกศรและหัวหอกที่ใช้ในการล่าสัตว์ ส่วนอาวุธสงครามประเภทใบ
หอกและดาบสั้นนั้นพบไม่มากนัก พบหลักฐานการถลุงเหล็กและตีเหล็ก
นอกจากเครื่องมือเครื่องใช้เหล็กแล้วยังพบโบราณวัตถุประเภทอื่น ๆ อีกที่ทำด้วย
กระดูกก็พบเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นหัวลูกศร ปิ่นปักผม เข็มเย็บผ้า สำหรับประเภทดิน
เผานั้นได้พบประติมากรรมชิ้นเอกรูปพระแม่หรือเจ้าแม่แห่งความอุดมสมบูรณ์ (mother
goddess) ประติมากรรมรูปสัตว์ เช่น วัว ส่วนเครื่องประดับที่พบก็ทำด้วยวัสดุหลายประเภทมี
กำไลแก้ว แหวนทองแดง ตุ้มหูดินเผาแบบต่าง ๆ ลูกปัดที่พบส่วนใหญ่ทำด้วยหินอาเกตและหิน
ื
คาร์เนเลียน พบเครื่องใช้ในครัวประเภทสากกับแท่งหินบด (สำหรับบดเมล็ดพช) อาชีพหลัก
ของประชากรในยุคนี้คือการเกษตรโดยมีอาชีพรองคือการล่าสัตว์ หาของป่า และจับสัตว์น้ำ ยัง
จัดอยู่ในระดับสังคมชนบท ยังไม่จัดเป็นสังคมเมืองเพราะไม่มีการวางผังเมือง ยังไม่มีการใช้อิฐ
1 การศึกษาในทางโบราณคดีและประวัติศาสตรมีความใกล้ชิดเชื่อมโยงกัน เนื่องจากเป็นการศึกษาเรองราวในอดีต
ื่
์
เช่นเดียวกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันในเรองแนวทางในการศึกษา นักโบราณคดีจะใช้หลักฐานทางโบราณคดี เป็นวัตถุดิบในการ
ื่
์
์
วิเคราะหลักษณะทางสังคมที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลานั้นๆ ในขณะที่นักประวัติศาสตรจะใช้หลักฐานทางเอกสารทั้งปฐมภูมิและ
ทุติยภูมิเพื่อวิเคราะห์และบรรยายสภาพทางสังคมต่างๆ ในที่นี้ นักประวัติศาสตร์ได้นำหลักฐานประเภทวรรณคดีต่างๆ เช่น คัมภีร ์
์
พระเวท คัมภีรในพระพทธศาสนา มหากาพย์มหาภารตะ มหากาพย์รามายณะ และคัมภีรอรรถศาสตร (แต่งโดยเกาฑิลยะ) ซึ่ง
์
์
ุ
ปรากฏศาสตร์เกี่ยวกับการปกครองของอินเดียโบราณมาบรรยายรูปแบบการปกครองและองค์กรทางการเมืองของอินเดียในยุคนั้น