Page 23 - 0006
P. 23
14
้
อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่อนุญาตให้ปฏิบัติตามมัซฮับของอิหม่ามอบูฮะนีฟะฮฺในประเด็นปัญหาขอนี้ใน
่
ู
่
ู
ื
ยุคสมัยนี้ คอ อนุญาตให้จ่ายเป็นคาที่ถกตีราคา (อัลกีมะฮฺ) ได้ดังกล่าวเป็นเพราะวาคาที่ถกตีราคา
่
(อัลกีมะฮฺ) นั้นมีประโยชน์อย่างยิ่งส าหรับคนยากจนในทุกวันนี้มากกว่าอาหารหลักเองเสียอีกและเป็น
สิ่งที่ใกล้เคียง ยังการท าให้เปูาหมายที่ถูกมุ่งหวังเป็นจริงที่สุด
่
สรุปได้วา การจ่ายซะกาตฟิตเราะห์ที่ดีที่สุดคอ การออกเป็นอาหารหลักที่ผู้คนใน
ื
่
บ้านเมืองนั้นบริโภคเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้าจะออกซะกาตเป็นเงินหรือธนบัตรตามจ านวนที่เทียบคาจาก
อาหารหลัก 1 ศออฺในประเทศนั้นๆ ก็สามารถกระท าได้ โดยยึดถือตามความเห็นของนักวิชาการฝุายที่
อนุญาต นอกจากนี้ เรื่องซะกาตฟิตเราะห์มีหลักฐานให้จ่ายเป็นอินทผลัม ขาวโอต ถาเราจะยึดตาม
้
้
้
หลักฐานจากตัวบทของหะดีษจริงก็ไม่อาจจ่ายเป็นข้าวสารได้เช่นกัน การที่เราจ่ายขาวสารถือเป็นการ
ใช้หลักการกิยาส ท่านอุมัร บิน อับดุลอะซีซ ได้มีค าสั่งไปยังอามิลของท่านว่า
ความวา “จากก็อรเราะฮ กล่าววา หนังสือของอุมัร บิน อับดุลอะซีซ เกี่ยวกับซะกาต
่
่
ฟิตเราะฮ ได้มายังพวกเราว่า หนึ่งศออฺจากทุกๆคน หรือราคาของมันครึ่งดิรฮัม
(รายงานโดย Abi Syaibah : 2/398)
คาสั่งของอุมัรฺดังกล่าวต้องเป็นที่รับรู้ของตาบิอีนในสมัยนั้นโดยไม่มีการปฏิเสธเลยอีก
่
ประการที่ 1 คนสมัยก่อนอาจดีใจเพราะได้รับอาหาร และการจ่ายอาหารในสมัยนั้นง่ายกวาการ
้
จ่ายเงินสด เพราะคนที่มีฐานะจะเก็บอาหารไวในบ้านอยู่เสมอ ประเภทที่ 2 ซะกาตทรัพย์สิน ภาษา
อาหรับ เรียกว่า "ซะกาตมาล" เป็นซะกาตที่มีก าหนดเวลาและมีเงื่อนไขของจ านวน เก็บเฉพาะมุสลิม
ที่มีทรัพย์สินถึงจ านวนที่ก าหนด ถ้ามีต่ ากว่าก็ไม่ต้องจ่าย หรืออาจสรุปได้ว่า ซะกาตจะเข้าไปเกี่ยวข้อง
กับทรัพย์สินทุกประเภทที่งอกเงยและเพิ่มพูนในขณะที่ทรัพย์สินที่ไม่อาจเพิ่มพูน ซะกาตจะไม่เขาไป
้
เกี่ยวข้อง
ทรัพย์สินที่ต้องจ่ายซะกาต มีดังนี้
้
(1) โลหะเงินและทองค า เงินสด เงินในบัญช หุ้น สินคา หากมีมูลคาเท่ากับราคาทองคา
ี
่
หนัก 85 กรัม หรือประมาณ 5.66 บาท (ทองคา 1 บาท หนัก 15 กรัม) เมื่อครบรอบปีต้องจ่าย
ซะกาต 2.5% จากทรัพย์สินเหล่านี้ โดยมีข้ออ้างอิงจากวัจนะศาสดาบทหนึ่งที่ว่า
่
ความวา “รายงานโดยท่านอาลี วา ท่านรอซูล กล่าวไวความวา : เมื่อท่าน
่
่
้
ครอบครองไว 200 ดิรฮัม และครบรอบปีต้องจ่ายซะกาต 5 ดิรฮัม และไม่มีอะไรที่ท่านจะต้องจ่าย
้
้
้
(หมายถึงทองค า) จนกว่าท่านจะครอบครองมันไว 20 ดีนาร เมื่อท่านครอบครองไว 20 ดีนาร และ
่
้
ครบรอบปี ท่านต้องมีซะกาตครึ่งดีนาร และส่วนที่เกินจากนั้นก็ให้ใชหลักคานวณเชนกัน และไม่พึง
ต้องจ่าย ซะกาตในทรัพย์สินจนกว่าจะครบรอบปี”
(บันทึกโดย Abu Daud : 1575)
ส่วนเครื่องประดับที่ประดิษฐ์จากทองค าหรือเงิน มี 2 ลักษณะด้วยกันคือ
ึ
่
ี
้
1) เครื่องประดับที่ถกเก็บไวเพื่อการเชา ซึ่งในกรณนี้ ปราชญ์อิสลามศกษาทั้งหมดเห็น
ู
พ้องกันว่าพึงจ าเป็นต้องจ่ายซะกาตโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ