Page 92 - การศึกษาวิเคราะห์หนังสืออะกีดะฮฺ อันนาญีน ฟี อิลมฺ อุศูล อัดดีน ของชัยคฺ ซัยนฺ อัลอาบิดีน เบ็น มุฮัมมัด อัลฟะฏอนีย์
P. 92

70







                                     ความว่า:  “ฉันได้ละไว้แก่พวกท่าน สองประการ พวกท่านจะไม่มีวันหลง
                                     ทางตราบใดที่พวกท่านยึดมั่นไว้กับ  ทั้งสอง  คือ กิตาบของอัลลอฮ์

                                     (อัลกุรอาน) และสุนนะฮ์ของเราะสูลของพระองค์ (อัลฮะดีษ)”
                                                                                                  1
                                                                                    (บันทึกโดย Mālik, 2004 : 678)
                        ท่านเราะสูลุลลอฮ์             ได้ยืนยันต่อผู้ยึดมั่นในอัลกุรอานและอัลฮะดีษจะไม่หลงผิด

                       อย่างแน่นอน ดังนั้น การกลับไปยังทั้งสองเป็นสิ่งจําเป็นกับทุกคนที่จะดําเนินชีวิตอย่างถูกต้อง
                       ประการทั้งปวงขึ้นอยู่กับอะกีดะฮ์ เนื่องจากเป็นรากฐานการดําเนินชีวิตในทุกๆ ด้าน กระนั้น  การยึด

                                        ั
                       มั่นในอัลกุรอานและอลฮะดีษจะถูกต้องได้นั้นต้องประกอบด้วยหลักการดังนี้ คือ
                                     หลักการที่ 1 ต้องให้ความสําคัญกับบทบัญญัติ หรือ หลักฐานจากอัลกุรอานและ

                       อัลฮะดีษเหนือความคิดในเมื่อขัดค้านกัน

                        ส่วนหนึ่งของแนวทางผู้ยึดมั่น         ในอัลกุรอานและอลฮะดีษ คือ พวกเขาจะเลือกคําตรัส
                                                                            ั
                       ของอัลลอฮ์ มากกว่าคํากล่าวของผู้อื่น จะชอบทางนําของเราะสูลุลลอฮ์   มากกว่าทางนําของผู้คน

                       ทั้งหมด และจะดําเนินรอยตามท่านเราะสูลุลลอฮ์    ทั้งการยึดมั่น (ภายใน) และการปฏิบัติ

                       (ภายนอก) (Ἀbū al-Qāsim al-Taimiy, 1990 : 1/272)
                                     หลักการที่ 2 ศรัทธากับปรากฏการณ์ตัวบท โดยที่ไม่ค้นหาด้วยความคิดในสิ่งที่ไม่ให้

                       ประโยชน์จากการตีความของอะฮฺลิลกะลาม
                         ผู้          ที่ยึดมั่นต่ออัลลอฮ์   ตามที่ได้กล่าวไว้ในอายะฮ์อัลกุรอานและที่ได้กล่าวไว้ใน

                       ฮะดีษเศาะฮีฮ โดยการยึดมั่นตามความเหมาะสมกับความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮ์    พร้อมกับปฏิเสธ

                       ความบกพร่องต่าง ๆ ต่ออัลลอฮ   แสดงว่าได้รับทางนําที่แท้จริงและได้ดําเนินชีวิตตามแนวทางที่
                                                 ์
                       เที่ยงตรง (Ἰbn Kathīr, 1991 : 2/247).

                                     หลักการที่ 3 ไม่มีการแยกกันระหว่างอัลกุรอานกับอัสสุนนะฮ  ์
                                     สิ่งสําคัญที่ชาวสะลัฟมีความแตกต่างกันกับพวกอื่น ๆ จากบรรดาชาวบิดอะฮ์ (อุตริ)

                       คือ พวกเขาให้ความสําคัญกับอัสสุนนะฮ์ ซึ่งถือว่าอัสสุนนะฮ์เป็นการขยายความอัลกุรอาน และเป็น

                       สิ่งอธิบายให้กับอายะฮ์ที่ปรากฏมาในอัลกุรอาน ดังนั้นชาวสะลัฟจึงยึดมันกับสิ่งที่ปรากฏใน ฮะดีษโดย
                       ไม่พยายามตีความไปนอกเหนือจากนั้น

                                     การยึดมั่นในอัลกุรอานและอัลฮะดีษพร้อมกับแสดงออกทางการปฏิบัติเป็นวิถีหนึ่งที่

                       เป็นเครื่องหมายของการยึดมั่นในรุก่นอีมาน การยึดมั่นและการปฏิบัติต่ออัลกุรอานและอัลฮะดีษจะ
                       ไม่สมบูรณ์หากไม่ได้พิจารณาแบบอย่างของเศาะฮาบะฮ  ์






                       1  อัลอัลบานีย์ กล่าวว่า เป็นฮะดีษฮะสัน (al-Ἀlbāniy, 1985 : 1/66).
   87   88   89   90   91   92   93   94   95   96   97