Page 87 - การศึกษาวิเคราะห์หนังสืออะกีดะฮฺ อันนาญีน ฟี อิลมฺ อุศูล อัดดีน ของชัยคฺ ซัยนฺ อัลอาบิดีน เบ็น มุฮัมมัด อัลฟะฏอนีย์
P. 87

65







                                                                                                         ์
                       ของอัลลอฮ์ อัลกุรอานคือมัคลูก  (สิ่งถูกสร้าง)  และอัลลอฮ์นั้นไม่ สามารถมอง เห็นในวันอาคิเราะฮ
                       (al-Dhahabiy, 2003 : 1/50).
                                     สําหรับมุอฺตะซิละฮ์นั้นมี 5 หลักการด้วยกันคือ อัตเตาฮีด อัลอัดลฺ อัลวะอฺดุวัลวะอีด

                       อัลมันซิละตุบัยนัลมันซิละตัยนฺ และอัลอัมรุบิลมะอฺรูฟ วันนะฮฺยุอะนิลมุนกัร  (al-Ἀsh„ariy,  1969  :
                       1/338 ; al-Shātibiy, 2008 : 3/343).
                         คนหนึ่งในบรรดาพวกเขาไม่สามารถจะเป็นมุอฺตะซิละฮ์ได้จนกว่าเขาจะประกอบ

                       ด้วยหลักการ 5 ประการคืออัตเตาฮีด อัลอัดลฺ อัลวะอฺดุวัลวะอีด อัลมันซิละตุบัยนัล   มันซิละตัยนฺ

                       และอัลอัมรุบิลมะอฺรูฟวันนะฮฺยุอะนิลมุนกัร และในเมื่อครบ 5 ประการแล้ว  เขาคือคนมุอฺตะซิละฮ์
                       (Yahyā bin al-Khair, 1999 : 1/69).
                                     1)  อัตเตาฮีด

                         อัตเตาฮีดเป็นหลักการที่สําคัญที่สุดของมุอฺตะซิละฮ์ พวกเขาได้กล่าวว่าแท้จริง
                       อัลลอฮ์นั้นไม่เหมือนกับสิ่งใ ดทั้งสิ้น แต่ที่ต่างกับกลุ่มอะฮฺลิสสุนนะฮ  คือ พวกเขาจะใช้ความคิดหรือ
                                                                              ์
                       ปรัชญาในการอธิบายและวิเคราะห์อายะฮ์ต่าง ๆ พร้อมทั้งตีความอายะฮ์ตามความเห็นชอบของ
                       สติป๎ญญา โดยเฉพาะอายะฮ์มุตะชาบิฮาต (คลุมเครือ) พวกเขาจะตีความหมายให้สอดคล้องกับ ความ

                       บริสุทธิ์ ซึ่งจะแตกต่างกับมูลฐานของเตาฮีดในส่วนของความหมาย

                                     ในเรื่องของเตาฮีดเช่นกันพวกมุอฺตะซิละฮ์มองว่า ซาตของอัลลอฮ์กับศิฟาตของ
                       พระองค์คือสิ่งเดียวกัน พวกเขาจะปฏิเสธกับคุณลักษณะต่างๆ ที่ไม่ใช่ตัวเดียวกันกับซาต อ าทิ เช่น

                       ศิฟ๎ตอิลมฺ กุดเราะฮ์  และหะยาตเป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นคุณลักษณะที่เพิ่มเติมจากซาตของอัลลอฮ์ ด้วย

                       หลักการนี้เองทําให้พวกมุอฺตะซิละฮ์กล่าวกับอัลกุรอานว่า เป็นมัคลูก ไม่ใช่กะลามุลลอฮ์ (คําตรัส
                       ของอัลลอฮ) ซึ่งจะขัดแย้งกับพวกอะฮฺลิสสุนนะฮ์ที่ยึดถือว่า อัลกุรอานคือ กะลามุลลอฮ์ (คําตรัส
                                ์
                                ์
                                                                     ์
                       ของอัลลอฮ) ซึ่งเป็นศิฟ๎ตหนึ่งในบรรดาศิฟาตของอัลลอฮ    (al-Ἀsh„ariy,  1969  :  1/235,  244  ;
                       Sulaimān bin „Abdullāh, 1984 : 179).
                                     2)  อัลอัดลฺ

                               อัลอัดลฺ หมายความว่า อัลลอฮ์นั้นอาดิล   (ผู้ทรงยุติธรรม) และด้วยความยุติธรรมของ
                       พระองค์จึงได้กําหนดความสามารถและความปรารถนาให้กับมนุษย์  แล้วมนุษย์เองจะเป็นผู้บังเกิด

                       ให้กับการกระทําของเขาและเป็นผู้รับผิดชอบกับการกระทํานั้น สําหรับอัลลอฮ์นั้นไม่  มีส่วนรวมใน

                       เรื่องนั้น หลักการนี้จะตรงข้ามกับพวกญะบะริยะฮ์ที่ กล่าวว่า อัลลอฮ์คือ ผู้ทรงสร้างทุกสิ่งและเป็น
                       ผู้กระทําทุกสิ่งที่เป็นการกระทําของมนุษย์ทั้งหมด โดยที่มนุษย์นั้นเป็นผู้ถูกอํานาจบังคับเหมือนกับสิ่ง

                       อื่นในธรรมชาติ (al-Ἀsh„ariy, 1969 : 1/298).
                                     3)  อัลวะอฺดุ วัลวะอีด

                         อัลวะอฺดุ           วัลวะอีด หมายถึง การตอบแทนกับผู้ภักดีและลงโทษกับผู้ฝ่าฝืนหากไม่ขอ

                       อภัยโทษ หรือในคําอธิบายอื่นว่า แท้จริงอัลลอฮ์จะไม่ทรงอภัยโทษกับผู้ที่กระทําความผิดใหญ่
                       นอกจากด้วยการเตาบะฮ  (ขออภัยโทษ)  เท่านั้น และพระองค์นั้นเป็นผู้สัจจะในสัญญาไม่มีการ
                                           ์
   82   83   84   85   86   87   88   89   90   91   92