Page 88 - การศึกษาวิเคราะห์หนังสืออะกีดะฮฺ อันนาญีน ฟี อิลมฺ อุศูล อัดดีน ของชัยคฺ ซัยนฺ อัลอาบิดีน เบ็น มุฮัมมัด อัลฟะฏอนีย์
P. 88
66
เปลี่ยนแปลงในข้อบัญญัติของพระองค์ และนี้เป็นผลมาจากความคิดของพวกเขาที่ว่า อีมานนั้นไม่ใช่
เป็นการยอมรับด้วยใจอย่างเดียว แต่ต้องปฏิบัติหน้าที่ต่าง ๆ เพราะอีมานใน ความหมายพวกเขาคือ
การยอมรับด้วยใจ การกล่าวด้วยลิ้นและการปฏิบัติด้วยอวัยวะต่าง ๆ แล้วผูกมัดการตอบแทนและ
การลงโทษด้วยกับการงานต่าง ๆ (Ἀhmad Ἀmīn, 1956 : 3/61-63).
4) อัลมันซิละตุ บัยนัลมันซิละตัยนฺ
อัลมันซิละตุ บัยนัลมันซิละตัยนฺ หมายความว่า ผู้กระทําบาปใหญ่จะอยู่ที่ตําแหน่ง
หนึ่งซึ่งอยู่ระหว่างกุฟรฺ (การปฏิเสธ) กับอีมาน (การศรัทธา) คือ ตําแหน่งฟิสกฺ (การฝ่าฝืนหรือการ
ทรยศ) และหลักการนี้จะตรงข้ามกับพวกเคาะวาริจญ์ที่กล่าวว่าเป็นกุฟรฺกับผู้กระทํา บาปใหญ่และตรง
ข้ามกับพวกมุรญิอะฮ์ที่พวกเขานับว่าเป็นมุอ์มิน แต่พวกเขามีความแตกต่างกันในการกําหนดบาปเล็ก
และบาปใหญ่มีสามทัศนะด้วย คือ
(1) สิ่งทุกอย่างที่มีวะอีด (การขู่เข็ญ) มันคือบาปใหญ่ และสิ่งทุกอย่างที่ไม่มีวะอีด
มันคือบาปเล็ก
(2) สิ่งทุกอย่างที่มีวะอีด (การขู่เข็ญ) มันคือบาปใหญ่และสิ่งทุกอย่างที่เหมือนกับ
มันในความใหญ่ก็คือบาปใหญ่เช่นกัน และสิ่งทุกอย่างที่ไม่มีวะอีดหรือ ในสิ่งที่เหมือนกับมัน สามารถ
กล่าวได้ว่าทั้งหมดคือบาปเล็ก และสามารถกล่าวได้ว่าส่วนหนึ่งคือบาป ใหญ่และอีกส่วนหนึ่งคือบาป
เล็ก และไม่สามารถกล่าวได้เลยว่าส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดไม่ใช่บาปเล็ก
(3) ทุกอย่างที่มีการเจตนาหรือตั้งใจคือบาปใหญ่ และทุกคนที่ได้กระทําความผิด
ฝ่าฝืนโดยเจตนาผู้นั้นคือผู้ที่ได้กระทําบาปใหญ่ (al-Ἀsh„ariy, 1969 : 1/332 ; Ἰbn Taimiyyah, 1995:
13/387).
5) อัลอัมรุบิลมะอฺรูฟ วันนะฮฺยุอะนิลมุนกัร
อัลอัมรุบิลมะอฺรูฟ วันนะฮฺยุอะนิลมุนกัร หมายถึง การสั่ง ใช้ในสิ่งที่ดีและยับยั้งในสิ่ง
ที่ชั่วช้า หลักการนี้ใช้ในการต่อสู้กับทุกคนที่ไม่เห็นชอบด้วยกับบทบัญญัติของอัลลอฮ์ สั่งใช้และสั่ง
ห้ามโดยการลงโทษด้วยดาบหากมีอํานาจ และไม่มีความแตกต่างกันระหว่างการต่อสู้กับกาฟิร
(ผู้ปฏิเสธ) หรือฟาสิก (ผู้ฝ่าฝืน) ด้วยหลักการนี้ทําให้พวกเขาสามารถใช้อาวุธได้ และทุกครั้งที่พวกเขา
ได้มีโอกาสใช้มันก็สามารถทําให้ผู้ต่อต้านดีได้ และไม่เกิดการเคลื่อนไหวที่ไร้ความปราณีในป๎ญหาของ
ค็อลกุลกุรอาน นอกจากการที่พวกเขาได้ใช้กับอาวุธนี้เท่านั้น (Ἀhmad Nahrawiy, 1988 : 150).
นอกเหนือจากหลักการ 5 ประการนี้แล้วพวกเขาได้ใช้พลังสติป๎ญญาในการตัดสิน
ความดีและความเลวอีกด้วยแม้ว่าทั้งสองนั้นไม่ได้กล่าวในบทบัญญัติก็ตาม