Page 82 - การศึกษาวิเคราะห์หนังสืออะกีดะฮฺ อันนาญีน ฟี อิลมฺ อุศูล อัดดีน ของชัยคฺ ซัยนฺ อัลอาบิดีน เบ็น มุฮัมมัด อัลฟะฏอนีย์
P. 82
60
และได้ตั้งชื่อกับกลุ่มนี้ว่า “ฮะรูริยฺยะฮ์” เช่นเดียวกับศาลได้เรียกชื่อกับผู้ที่กล่าวว่า “ลาฮุกมุ อิลลา
์
ลิลลอฮ” ว่า “ฮะรูริยฺยะฮ”
์
อะลีย์ ได้ทําสงครามกับพวกเขาที่สมรภูมิ “อันนะฮฺเราะวาน ” ภายใต้การนําของ
1
อับดุลลอฮ์ เบ็น วะฮับ อัรรอสีบีย์และได้พ่ายแพ้ในที่สุด พวกเขาได้ถูกฆ่าเป็นจํานวนมาก ได้มีการ
กล่าวว่าไม่มีเหลือเลยในบรรดาพวกเขา นอกจากจํานวนไม่ถึงสิบคนเอง (al-Shahrastāniy, 1976 :
1/114-118).
ในการพ่ายแพ้ครั้งนี้ทําให้พวกเคาะวาริจญ์โกรธมากกับอะลีย์ จนได้ติดตามวางแผน
2
กับเขาและได้ถูกฆ่าโดย อับดุรเราะ ฮมาน เบ็น มัลญัม อัลคอริญียฺ ซึ่งเป็นสามีของผู้หญิงคนหนึ่งที่
สมาชิกครอบครัวของเธอถูกฆ่าหลายคนในสมรภูมิอันนะฮฺเราะวาน (Ἀhmad Ἀmīn, 1956: 3/257)
พวกเคาะวาริจญ์ได้แยกออกไปเป็นกลุ่มมากมาย แต่พวกเขาเห็นชอบด้วยอย่างเป็น
3
เอกฉันท์ในการปฏิเสธ ต่ออุษมานกับอะลีย์ อัศ ฮาบุลญะมัล และต่อทุกคนที่ยอมรับในเรื่องของการ
ตะฮกีมและเห็นชอบด้วยในการปฏิเสธ ต่อผู้ที่ได้กระทําความผิดใหญ่ นอกจากผู้ที่ให้ความช่วยเหลือ
จากพวกเคาะวาริจญ์ และการออกจากอิมามเป็นสิ่งที่ถูกต้องและจําเป็นเมื่อไม่เห็นชอบด้วยกับ
สุนนะฮ ์
เคาะวาริจญ์จะเริ่มด้วยประโยคที่เกี่ยวข้องกับการสืบตําแหน่งผู้ปกครอง (คิลาฟะฮ)
์
และมีทฤษฎีเฉพาะในป๎ญหานี้ พวกเขามองว่า คิละฟะฮ์จําเป็นต้องมีการคัดเลือกที่บริสุทธิ์จากบรรดา
มุสลิม และเมื่อถูกเลือกแล้วจะไม่มีการถอนตัว หรือจะแต่งตั้งให้คนหนึ่งเป็นผู้ตัดสิน และเคาะลีฟะฮ ์
ไม่จําเป็นต้องเป็นคนกุร็อยชฺ แต่เป็นการถูกต้องกับคนอื่นที่นอกเหนือจากคนกุร็อยชฺด้วย แม้ว่าเขานั้น
เป็นทาสชาวฮะบะชีย์ก็ตาม ในเมื่อมีความสมบูรณ์ในการคัดเลือกเป็นผู้ปกครองของคนมุสลิมทุกคน
วาญิบต้องถ่อมตัวเชื่อฟ๎งทั้งหมดในสิ่งที่อัลลอฮ์สั่งไว้ และหาก ไม่ปฏิบัติต้องปลดพ้นจากตําแหน่ง และ
สิ่งที่อันตรายที่สุดในบรรดาคําสอนของเคาะวาริจญ์คือ การมองของพวกเขาต่อผู้ทําบาปใหญ่และ
บางครั้งบาปเล็กถือว่าเป็นกาฟิร (ผู้ปฏิเสธ) และด้วยสาเหตุนี้เองทําให้พวกเขาต้องออกจากบรรดา
อิมามที่ กระ ทําความผิดขนาดเล็ก และมีส่วน ใหญ่ จากพวกเคาะวาริจญ์มองกับคนมุสลิมที่
นอกเหนือจากพวกเขาว่าเป็นกาฟิร และปฏิบัติต่อพวกมุสลิมเหล่านั้นยิ่งกว่าปฏิบัติกับคนกาฟิร โดยไม่
งดเว้นในการฆ่าเด็ก ผู้หญิง และคนชรา
1 ท่านมีชื่อเต็มว่า อับดุลลอฮ์ เบ็น วะฮับ อัรรอสิบียฺ อัลอุซฺดียฺ เสียชีวิตในปี ฮ.ศ. 38 al-Zirikliy, 2002 : 4/143).
(
2 ท่านมีชื่อเต็มว่า อับดุลเราะฮมาน เบ็น อัลมุลญัม อัลมุรอดียฺ เป็นผู้ฆ่าอะมีรุลมุอ์มินีน อะลีย์ เบ็น อะบี ฏอลิบ เสียชีวิตในปี ฮ.ศ. 40
(al-Zirikliy, 2002 : 3/339).
3 หมายถึง กลุ่มของท่านหญิงอะอิชะฮ์ที่เกิดการสงครามระหว่างกลุ่มท่านหญิงอะอิชะฮ์กับกลุ่มอะลีย์ ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารประเทศในสมัย
นั้น และกลุ่มอะลีย์ เป็นฝ่ายชนะสงคราม การทําสงครามครั้งนี้ทําให้มุสลิมต้องเสียเลือดเนื้อเป็นจํานวนมาก ที่เรียกว่าอัศ ฮาบุลญะมัล
เนื่องจากว่าท่านหญิงอะอิชะฮ์ได้ใช้อูฐในการสงคราม