Page 37 - 071
P. 37

20







                                                          ึ
                                                    
                                                                                              ั้
                                                                                   ึ
                                     2.14.2.1 ความเคนแรงดง (tensile stress) เมื่อมีแรงดงมากระทําตงฉากกับพื้นที่
                       ภาคตัดขวางโดยพยายามใหวัสดุยืดออกและแยกออกจากกัน
                                     2.14.2.2 ความเคนแรงกด (compressive stress) เมื่อมีแรงกดมากระทําตั้งฉากกับ
                       พื้นที่ภาคตัดขวางโดยพยายามกดใหวัสดุหดตัวลง

                                                    
                                     2.14.2.3 ความเคนแรงเฉอน (shear  stress)  เมื่อมีแรงมากระทําขนานกับพื้นที่
                                                           ื
                                                                             
                                                                                          
                       ภาคตัดขวางเพื่อใหวัสดุเคลื่อนผานกันโดยที่ความเคนแรงเฉือนมีคาเทากับผลลัพธของแรงเฉอนและ
                                                                                                   ื
                       พื้นที่ภาคตัดขวางที่ขนานกับแรงเฉือนที่มากระทํา

                              2.14.3 คามอดูลัสของยัง (Young’s modulus)

                                                           ี้
                                     มอดลัสที่กลาวถงขางตนน จะไดจากการคดคานวณจากกราฟในชวง linear หรือ
                                                         
                                         ู
                                                                            ํ
                                                     
                                                                                             
                                                                 
                                                   ึ
                                                                         ิ
                                                                                
                                                                                                         
                                                                   ั
                                                          
                                                                 ื
                                                      ิ
                       ชวงที่ยงมีพฤตกรรมเปนแบบอิลาสตก (ชวงการยดตวหรือ strain นอยๆ) และบางครั้งจะเรียกคา
                                   ิ
                        
                             ั
                       มอดูลัสในแบบดังกลาววา Young’s modulus หรือ initial modulus นอกจากนั้นยังมีคามอดูลัสอีก
                                                                                             ั
                                                                                                   
                       ลักษณะหนึ่งคือ secant modulus ซึ่งไดจากอัตราสวนความเคนตอความเครียดที่วดจากชวงตางๆ
                                                                              
                                                                            
                                                                                                      
                                                         
                                                                                          
                       ในเสนกราฟ (รูปที่ 2.9) คามอดูลัสยังสามารถบอกแนวโนมวาวัสดุชนิดใดมีความตานทานตอการเสีย
                                                                                                  
                       รูปมากนอยกวากัน โดยวัสดุที่มีคามอดูลัสที่สูงจะเกิดการเสียรูปไดยากกวาวัสดุที่มีคามอดูลัสที่ต่ํา





                                                                    ู
                                               ภาพที่ 2.9 การหาคามอดลัสในแบบตางๆ



                       2.15 สมบัติการไหล (Rheology)



                              คําวาวิทยาศาสตรการไหล (Rheology) มีที่มาจากภาษากรีก โดยคําวา rheo หมายถึง การ

                       ไหล Bingham และ Crawford ไดเสนอแนะวาเปนศาสตรที่ใชอธิบายการไหลของของเหลวและการ
                       เปลี่ยนแปลงรูปรางของของแข็ง ความหนืด (viscosity) จึงเปนความตานทานของของเหลวตอการ

                       ไหล ความหนืดที่สูงขึ้นก็จะมีความตานทานตอการไหลมากขึ้นดวย (สมบัต, 2549) ของเหลวธรรมดา
                                                                                   ิ
   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42