Page 32 - 071
P. 32

15







                              2.10.3 การนําไปใช

                                            
                                     ที่พบไดทั่วไปคอใชในการทําอาหาร ทําเบเกอรี่ ซึ่งผงฟูนจะใชเปนแหลงใหกาซ
                                                                                           
                                                                                      ี้
                                                  ื
                                                     
                                                                                          
                                                                                       
                                                                                              ึ้
                                                     ั
                                        
                                                           ั้
                       คารบอนไดออกไซด โดยการสลายตว ในขนตอนการอบเบเกอรี่ ทําใหเกิดชองวางขนภายใน ทั้งน    ี้
                       สามารถผสมผงฟูเปนสวนประกอบของเบเกอรี่ชนิดตาง ๆ และสามารถทิ้งสวนผสมนไวโดยที่ไมเกิด
                                                                  
                                                                                               
                                                                                             ี้
                       กาซ CO 2 กอนขนตอนการอบได นอกจากนนยงใชปรับสภาพสระวายนา หรือตปลาใหมีความเปน
                                                                               
                                                                                   ้ํ
                                                                                          ู
                                                                 
                                                            ั้
                                                              ั
                                                  
                                    ั้
                       กลาง เนื่องจากการเติมคลอรีนที่มากเกินไปทําใหสระวายน้ํามีความเปนกรดมากเกินไป

                       2.11 การวัลคาไนซโดยใชกํามะถัน

                               การวัลคาไนซ คือขบวนการเปลี่ยนยางที่อยูในสภาพที่ไมคงตัวใหเปนยางที่รักษารูปทรงไดใน
                                                                                                        
                                                                                             ื่
                       ลักษณะยืดหยุนหรือแข็งกระดางโดยการใชสารวัลคาไนซ ซึ่งเปนสารที่ทําใหเกิดการเชอมโยงโมเลกุล
                       ซึ่งเรียกวาเกิดการ crosslink
                                                                                                        ั
                                                                     ั
                                                                    
                                                                                         ั
                                                         ิ
                               การวัลคาไนซของยางธรรมชาต สารที่นยมใชวลคาไนซจะเปนกํามะถน สารที่ใหกํามะถน
                                                                ิ
                                                                                                         ํ
                                                                                             ั
                       (sulphur donor) และเปอรออกไซด เปนตน (พรพรรณ,  2527) โดยเมื่อใสกํามะถนในยางแลวนา
                                                           
                                                     
                       ยางมาใหความรอนจะเกิดการวัลคาไนซขึ้น ซึ่งจะทําใหยางมีสมบัติดีขึ้นคอ เมื่อรอนไมเหลว เมื่อเยน
                                                                                                        ็
                                                                                  ื
                                                                                                   ั
                       ไมแข็ง ไมมีกลิ่น ไมเหนียว และไมละลายในตัวทําละลายเปนตน ที่เปนเชนนี้ เนื่องจากกํามะถนทําให
                       โมเลกุลของยางมาเชื่อมตอกัน

                                                                 สารตัวเรง                     S x
                                                                        ่
                                                                                  +   S x
                                                                                                   S x

                              โมเลกุลของยาง                                       กํามะถัน                   ยางเมื่อถูก crosslink
                                    ภาพที่ 2.6 การเชื่อมโมเลกุลของยางดวยกํามะถัน (พรพรรณ, 2527)
   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37