Page 24 - 071
P. 24
7
ผลึก (semi-crystalline polymer) ซึ่งประกอบดวยผลึกบางสวน ปริมาณผลึกในพอลิเมอรนี้สงผลถึง
ั
ิ
ู
ื
สมบัตทางความรอนที่สําคญ คอ อุณหภมิจุดหลอมเหลว (melting point temperature, T m) ซึ่ง
เปนอุณหภูมิที่สายโซพอลิเมอรเปลี่ยนสถานะจากของแข็งเปนของเหลวคลายกับการหลอมเหลวของ
ู
ื
ั
ของแข็งชนิดอื่นและสมบัติทางความรอนที่สําคญอีกประการของพอลิเมอร คอ อุณหภมิการเปลี่ยน
สถานะคลายแกว (glass transition temperature, T g)
ตาราง 2.1 คา T g และ T m ของพอลิเมอรชนิดตางๆ (ชูศักด, 2554)
ิ์
0
0
Polymers T g ( C) T m ( C)
High Density Polyethylene (HDPE) -90 137
Low Density Polyethylene (LDPE) -110 115
Polypropylene (PP) -18 175
Polytetrafluoroethylene (PTFE) -97 327
Polyvinyl chloride (PVC) 87 212
Polystyrene (PS) 100 -
Polycarbonate (PC) 150 265
Nylon 6,6 57 265
2.5 การสงผานความรอน
ึ่
ู
ความรอนเปนพลังงานรูปแบบหนงซึ่งจะสงผานหรือถายเทจากบริเวณที่มีอุณหภมิสูงไปสู
บริเวณที่มีอุณหภูมิต่ํา ซึ่งการสงผานความรอนอาจจําเปนตองใชตัวกลางในการสงผานหรือไมจําเปนก็
ได การถายเทความรอนมีสามแบบคือ การนํา (conduction) การพา (convection) และการแผรังสี
(radiation)
2.5.1 การนําความรอน (Conduction heat transfer)
ํ
ึ
การนําความรอน หมายถง การถายเทความรอนโดยการนา ความรอนจะไหลจาก
ู
ั
แหลงที่มีอุณหภูมิสูง โดยไหลผานตวกลางซึ่งเชอมตอสูแหลงที่มีระดบอุณหภมิตากวา การนาความ
ํ
่ํ
ื่
ั
ุ
ั
ู
รอนเปนการสงผานพลังงานความรอนไปในเนื้อวตถ เมื่อมีความแตกตางระหวางอุณหภมิ โดยที่เนอ
ื้
วตถหรือตวกลางไมมีการเคลื่อนที่ อัตราการสงถายพลังงานแปรผันตรงกับพื้นที่หนาตด A ผลตาง
ั
ั
ุ
ั
อุณหภูมิ ΔT และแปรผกผันกับความหนาของตัวกลาง ดังรูป