Page 20 - 071
P. 20
3
ึ
นาหนกของคอนกรีตจะลดลงจาก 14% ถง 28% เมื่อเทียบกับคอนกรีตธรรมดาและพบวาคา
ั
้ํ
สัมประสิทธิ์การนําความรอนลดลง คือการเปนฉนวนกันความรอนดีขึ้นเมื่อเทียบกับยางครัมบธรรมดา
Hrdricka et al. (2010) ศกษาการเตรียมเทอรโมพลาสติกอิลาสโตเมอรจากกํารเบลนดของ
ึ
ยางรีเคลมกับพอลิเอทิลีนความหนาแนนต่ํา (LDPE) จากการศึกษาพบวา เมื่อ LDPE มากขึ้นจะทําให
สมบัติเชิงกลของวัสดุนั้นเพิ่มขึ้นโดยที่ตัวอยางที่ดีที่สุดในการทดลองครั้งนี้มีคาสมบัติการดึงเทากับ 8.6
MPa สมบัติเชิงกลจะเพิ่มขึ้น ณ จุดหนึ่งแลวจะมีการลดลงเพราะเมื่อปริมาณ LDPE มากขึ้นทําใหวัสด ุ
นั้นนิ่มลง จึงทําใหสมบัติเชิงกลนั้นดอยลงดวยเชนกัน
Benkreira et al. (2011) ศกษาและพัฒนาสมบัตการดดซับเสียงและสมบัตเชงความรอน
ึ
ิ
ู
ิ
ิ
ิ
ของวัสดุเหลือใช เชน ยางรถยนต เสนใย พลาสตก โดยการศกษานนจะศกษาโครงสรางภายในของ
ั้
ึ
ึ
วัสดุที่เปนเซลลเปดหรือวาเซลลปด และจากการศึกษานั้นพบวาเซลลที่มีลักษณะเปนเซลลปดจะทําให
สมบัติการดูดซับเสียงและสมบัติเชิงความรอนนั้นดีขึ้น
ิ
ิ
ิ
ิ
ึ
Kader et al. (2011) ศกษาสมบัตเชงความรอนและเชงกลของเศษยางธรรมชาตโดยการ
ผสมยางธรรมชาติเพื่อเปนการลดตนทุน โดยจะผสมเศษยางเขาไปในอัตราสวน 200, 400, 600, 800,
ิ
ี
และ 1000 phr. จากการศึกษาจะเห็นวาทั้งสมบัติเชงความรอนและเชงกลจะดขนเมื่อผสมเศษยาง
ึ้
ิ
ึ้
เพิ่มขึ้น แตความหนาแนนของยางนนจะเพิ่มขนจนกระทั่งเพิ่มเศษยางเขาไปที่อัตราสวน 600 phr.
ั้
และหลังจากนั้นจะมีการลดลงเนองจากเมื่อเพิ่มเศษยางเขาไปมากขึ้น ทําใหยางเสื่อมสภาพลง
ื่
1.3 วัตถุประสงคของการวิจัย
1.2.1 เพื่อเปนการนําวัสดุเหลือใชมาใชใหเกิดประโยชนสูงสุด
ิ
1.2.2 เพื่อศึกษาสมบัติเชิงความรอนและเชิงกลของยางธรรมชาตเบลนดยางรีเคลมและเศษ
แผนฟลม
ิ
1.2.3 เพื่อศึกษาสมบัติตางๆของยางธรรมชาตเบลนดยางรีเคลมและเศษแผนฟลมเมื่อผสม
สารที่ทําใหเกิดฟอง