Page 137 - 052
P. 137
121
4
มากว4า 45 ปz อีกทั้งนิยมกันไม4น อยไปกว4าข าวมันอาหรับ แหล4งที่มาของข าวชนิดนี้ มาจากสูตรไกย4างจี
4
ู
4
ํ
ิ่
ี่
4
ุ
ั
ราพน (มสลิมกรุงเทพ) มากอนทเร4มาขายในทองถน ตอมาคนสตลนําสูตรไปทาไกทอด และขาวหมก
4
ไก4 ซึ่งนิยมทานกันในวันสําคญทางศาสนา เช4น วันฮารีรายอ งานรับแขกผู ใหญ งานแตงงาน และงาน
ั
4
ี
ั้
ั้
ึ่
ี
ั
ประเพณตาง ป`จจุบันหารับประทานกนไดตามสะดวก ตงแตย4านตลาดจนถง ภัตตาคาร ซงมทงแบบ
ึ
4
4
ี่
ั
ไกตม ไกทอด และไขตม รับประทานกบน้ําจิ้มทมส4วนประกอบของพริก กระเทยม เกลือ น้ําตาล
4
ี
ี
4
4
็
ั
ี
น้ําส มสายชู รสชาตของน้ําจิ้มจะตองกลมกล4อมทงสามรส ผักทรับประทานคกนกมผักกาดหอม ผักชี
ั้
ี่
ู4
ิ
และแตงกวา
3.2 ถั่วลูกไก *
ฮมมส, ฮมมส (องกฤษ: hummus) หรือ ฮมมศ (อาหรับ: ﺺ ﲪ แหล4งกาเนิด
ั
ั
)
ุ
ุ
ํ
ุ
ุ
ั
ُ
ํ
ั่
ี
ี
4
ั
จากอยิปต และซาม หรือซเรียป`จจุบัน เป8นอาหารประเภทจิ้ม ทาจากถวลูกไก ป`จจุบันฮมมสเป8นท ี่
ั
ั่
นิยมทวตะวันออกกลาง (รวมทงตรก และแอฟริกาเหนือ) และในรายการอาหารตะวันออกกลางทว
ั่
ี
ั้
ุ
ี่
ึ
ี่
โลก สําหรับฮมมส เป8นอาหารประเภททปรากฏ ในสตลมทมาจากนักศกษาทจบจากอาหรับ แล วนํา
ู
ี
ี่
ั
ั
ั
ิ
ั
ํ
ิ
ี
ึ่
สูตร เช4นเดยวกบขามมนอาหรับ แล วมาปรุงปรับให เขารสชาตอาหารทองถน จิ้มกบโรต ซงทากน
ิ่
ั
ี
ี
4
4
4
4
เฉพาะพบปะในกลุ4มนักศกษาตางประเทศ และครอบครัวเทานั้น ไมมแพร4หลายประปลาย จึงไมคอย
ึ
4
เป8นที่รู จักโดยผู คนทั่วไปนัก
5.2 อภิปรายผลการวิจัย
ิ
ํ
1. ลักษณะการยืมคาจัดเป8นวัฒนธรรมทางภาษา เกดขนภายใต บรรยากาศของการ
ึ้
ึ่
ึ้
ั้
สัมผัสภาษา ซงมาจากบุคคลบางกลุ4มทพดได สองภาษาขนไป และสามารถใช ภาษาทงสองสื่อสารไป
ี่
ู
ี่
ี่
ึ
มา เช4น กรณของผู ทเดนทางไปศกษาทประเทศอาหรับ และใช ชีวิตอยู4เป8นเวลานาน สามารถสื่อสาร
ี
ิ
ภาษามลายูถน ภาษาไทยถน และภาษาอาหรับสลับไปมาได ส4วนป`จจัยทก4อให เกดคายืม มทงป`จจัย
ี
ี่
ิ
ิ่
ิ่
ั้
ํ
ี่
จากตัวภาษาเอง และป`จจัยทางสังคม ซงสอดคล องกบแนวคดเกยวกบป`จจัยในการยืมคาของคาร เมล
ั
ํ
ิ
ั
ึ่
ี่
ี
ี่
ํ
ั้
ิ
เฮียะลีเซียะ (Carmel Heah Lee Hsia, 1989 : 14-16) ทได แบ4งป`จจัยทก4อให เกดการยืมคาว4า มทง
ั
ี่
ี่
ป`จจัยทเกดจากตวภาษา และป`จจัยทางสังคม โดยป`จจัยจากตวภาษานั้น เกดจากความถในการ
ิ
ิ
ั
ี
ี
ี
ี่
ั
ปรากฏของคา ซงคาศพท ทมความถในการปรากฏสูง และมการใช บ4อยจะมการยืมได ง4าย ดงพบได
ึ่
ี่
ํ
ั
ํ
ี่
จากกระบวนการสอน หรือบรรยายวิชาการศาสนาตามมสยิด หรือสถานศกษาต4างๆ ทผู สอนมกใช
ั
ั
ึ
คําศัพท ภาษาอาหรับซ้ําๆ กัน
ั
สําหรับป`จจัยทางสังคม เป8นป`จจัยทอยู4นอกเหนือจากป`จจัยของตวภาษา เกดจาก
ี่
ิ
ี
ั
ื
ั
ิ่
ี่
ั
ั้
ิ์
ศกดศรีของทงสองภาษาทเกดการสัมผัสกน นั่นคอ ภาษาอาหรับมศกดศรีเหนือกว4าภาษามลายูถน
ิ์
ิ
ั
ํ
ี
สตูล เนื่องจากเป8นภาษาของอลกรอาน และเป8นภาษาทใช เขยนตาราศาสนา จึงทาให ภาษามลายูถน
ํ
ุ
ิ่
ี่
ิ
ิ
ี่
ี
ู
ํ
ั
สตล ยืมคาจากภาษาอาหรับมาใช นอกจากนี้ทศนคตทมต4อภาษายังเป8นอกสาเหตหนึ่ง ทก4อให เกด
ุ
ี
ี่
ํ
การยืมคา เช4น ความรู สึกว4าภาษาอาหรับน4าจะดกว4า ภาษามลายู สําหรับเรียกแทนความหมายบาง
ี
ี
อย4าง หรือแสดงความรู ความสามารถ ในการใช ภาษาต4างประเทศของตน ซงในกรณนี้ ผู วิจัยพบว4า ผู
ึ่
ทสําเร็จการศกษาจากประเทศอาหรับ มกใช คาภาษาอาหรับ ในการสนทนากนมากกว4าบุคคลทวไป
ี่
ํ
ั
ั
ั่
ึ