Page 170 - 047
P. 170
149
ิ
3. แนวทางการพัฒนาการบรหารงานวิชาการทผู้วิจัยได้รวบรวมจาก
ี่
ึ
ี
ิ
ผู้บรหารสถานศกษาในโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม สังกัดส านักงานการศกษาเอกชนจังหวัด
ึ
ิ
ั
ิ
็
ี
ปตตานสามารถก าหนดเปนมาตรการเพื่อการพัฒนาการบรหารงานวิชาการให้มประสทธภาพมาก
ิ
ี
ิ
ข้น
ึ
3. ขอเสนอแนะสาหรบการท าวิจยครงตอไป
ั
่
้
ั
้
ั
เพื่อให้การค้นคว้าวิจัยในเรองปญหาและแนวทางการพัฒนาการบรหารงาน
ั
ิ
ื่
ี
วิชาการ โรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม สังกัดส านักงานการศกษาเอกชนจังหวัดปตตานได้
ึ
ั
ี
ิ
ประโยชน์อย่างกว้างขว้างและทั่วถง ผู้วิจัยขอเสนอการวิจัยดังน้ ี
ึ
ี
ิ
ุ
ี
1. ควรใช้วิธการวิจัยเชงคณภาพ ในการวิจัยหัวข้อลักษณะเดยวกันน้ ี
ึ
ิ
ิ
2. ควรศกษาเปรยบเทยบประสทธภาพการพัฒนาการบรหารงาน
ี
ี
ิ
ี
ี
ิ
วิชาการ ในโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม สังกัดส านักงานการศกษาเอกชนจังหวัดใกล้เคยง
ึ
ี
และเปรยบเทยบกับการบรหารงานวิชาการของโรงเรยนรฐในจังหวัดใกล้เคยงเช่นกัน
ั
ี
ี
ี
ิ
ึ
ี่
3. ควรศกษาตัวแปรอนๆ ทส่งผลต่อปญหาและแนวทางการ
ั
ื่
ิ
พัฒนาการบรหารงานวิชาการในโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม สังกัดส านักงานการศกษา
ึ
ิ
ี
ั
ุ
ี
ิ
เอกชนจังหวัดปตตาน เช่น ภาวะผู้น าทางวิชาการ คณลักษณะผู้น าต่อการบรหารวิชาการ ความพึง
พอใจต่อการบรหารงานวิชาการ เปนต้น
็
ิ
ิ
ี่
4. ควรศกษาความคดเหนของผู้รบบรการและผู้ทเกี่ยวข้อง เช่น
ึ
ิ
็
ั
ิ
ี
ิ
ี่
ผู้ปกครอง ตัวแทนชมชน ทมต่อการบรหารงานวิชาการในโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม
ุ
ี
สังกัดส านักงานการศกษาเอกชนจังหวัดปตตาน ี
ึ
ั
5. ควรศกษาการวิเคราะหองค์ประกอบปญหาการบรหารงานวิชาการ
ั
ึ
ิ
์
ในโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม สังกัดส านักงานการศกษาเอกชนจังหวัดปตตาน ี
ี
ิ
ั
ึ