Page 61 - 032
P. 61
41
ุ
ื่
ี
็
ี
นักเรยนหรอคนร่นอนๆก็จะมาอาศัยแทน การเปนอยู่ลักษณะน้จะหมนเวียนไปตลอดอย่างต่อเนอง
ื
ื่
ุ
ู
ิ
จนกว่าปอเนาะนั้นจะช ารดผุพังหรอถกยกเลกไป และค าว่า ปอเนาะ มาจากค าว่า ฟุนดก และใช้ค าน้ ี
ุ
ื
ุ
ุ
ี
ี่
ึ
ื
ี
็
ี
เรยกแทนที่พักของนักเรยนหรอนักศกษา ว่า ปอเนาะ จนในทสด ได้พัฒนาการมาเปนค าทเรยกใช้
ี่
ี่
ิ
กันอย่างต่อเนองและถอเปนศัพท์ทางการทใช้เรยกสถานศกษาทางด้านอสลามแบบเก่ามาอย่าง
็
ื่
ึ
ื
ี
ื
แพร่หลาย ดังนั้นปอเนาะ จึงประกอบไปด้วยโต๊ะคร บ้านพักโต๊ะคร สถานทหรอบาลัยหรอมัสยิดท ี่
ู
ี่
ู
ื
ใช้ส าหรับการเรยนการสอน นักศึกษาและที่พักที่เรยกว่าปอเนาะ (อบบรอเฮง อาลฮเซน, 2552)
ี
ิ
ี
ุ
ิ
ี
ิ
ั
ู
อบราเฮ็ม ณรงค์รกษาเขต (2548) ได้อธบายว่า ปอเนาะนั้นมรปแบบมาจาก
็
ิ
ี่
ประเทศเยเมน เพราะผู้ทน าอสลามมาเผยแพร่ในยุคแรกยังพื้นทจังหวัดชายแดนภาคใต้เปนชาว
ี่
ื่
็
ี
ี
เยเมน และผู้ที่ก่อตั้งปอเนาะแห่งแรกเมอช่วง 500 ปก่อนก็เปนชาวเยเมน มนักวิชาการบางท่านกล่าว
ึ
ิ
ว่า การศกษาในรปแบบปอเนาะเร่มแรกนั้นเกิดขึ้นทประเทศอรก แล้วได้แพร่หลายกระจายไปใน
ู
ั
ิ
ี่
ิ
ุ
โลกอาหรับโดยเฉพาะในนครมักกะห์ประเทศซาอดอาระเบีย จากนั้นก็แพร่เข้ามายังโลกมลายู
ิ
่
ิ
ี
ตายุดน อสมาน (มปป.) กล่าวว่า ปอเนาะนั้นเดมก่อตั้งและก าเนดมาจากปตตานซง
ั
ึ
ุ
ิ
ั
ี
ิ
ิ
ิ
ี่
ื
อยู่ในภาคใต้ของประเทศหรอในประเทศอนโดนเซยรฐกาลมันตัน แต่น ้าหนักทว่าปอเนาะมาจาก
ั
็
ู
ปตตานมความเปนไปได้สงกว่าทั้งน้เนองจากสมัยก่อนปตตานเปนที่ร้จักกันในนาม ระเบียงแห่งมัก
ี
ั
ี
็
ี
ี
ู
ื่
ื
่
กะห์ ซงถอเปนศูนย์กลางการทางการศึกษาอสลามแห่งเอเชยอาคเนย์ เพราะช่วงครสต์ศตวรรษท 12
ึ
ี
ี่
ิ
ิ
็
ี
ุ
ั
อลามะอ์ปตตานหลายท่านได้แต่งต าราวิชาการทางศาสนาด้วยภาษามลายูยาวี โดยในประเทศ
็
ี
ี่
ี
ี
มาเลเซยใช้เปนต าราการเรยนการสอนทแพร่หลาย ทั้งน้มนักวิชาการอกหลายท่านมความเหนว่า
ี
ี
็
ี
ปอเนาะนั้นเกิดขึ้นแห่งแรกที่ปตตานจากนั้นจึงได้แพร่หลายไปทั่วเอเชยอาคเนย์
ี
ี
ั
ุ
ุ
ุ
โดยสรปแล้ว ปอเนาะคือสถาบันการศึกษาที่เก่าแก่ที่สดในสังคมมสลม โดยเฉพาะ
ิ
สังคมมสลมในภูมภาคอาเซยน ในประเทศไทยปอเนาะถอเปนสถาบันทางการศึกษาที่อยู่ค่กับสังคม
ุ
็
ู
ิ
ื
ี
ิ
ึ
ุ
ิ
็
มสลมมายาวนาน เปนสถาบันที่มบทบาทส าคัญอย่างยิ่งในการจัดการศกษาวิชาการสาขาต่างๆ
ี
ุ
ิ
ื
ู
ให้แก่สังคมมสลม ในทุกเพศ ทุกวัย ความร้และวิชาการที่ปอเนาะจัดให้นั้นเปนวิชาการหรอความร ้ ู
็
ทางศาสนาที่จะท าให้ผู้ศึกษาได้รจักข้อบัญญัติใช้และห้าม ตลอดจนบาปบุญและการลงโทษ
้
ู
ิ
ี
ี
ื
ี
ปอเนาะมการจัดการเรยนการสอนที่ไม่มการวัดและประเมนผลโดยการให้เกรดหรอระดับคะแนน
ุ
ู
ู
ื
ิ
แต่การวัดระดับความร้ของผู้เรยนแต่ละคนนั้นจะมาจากดลพินจของโต๊ะครหรอผู้สอน
ี