Page 35 - 026
P. 35
35
ิ
การสร้างความเข้มแข็งในด้านหลักสูตรอิสลามศึกษานานาชาต(ISIP) ที่จะให้มีความ
เท่าเทียมกับนานาชาตินั้นจ าเป็นที่วิทยาลัยจะต้องแสวงหาพันธมิตรทางวิชาการจากมหาวิทยาลัย
ต่างๆที่จัดการเรียนการสอนอิสลามศึกษาในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันการศึกษาที่มี
นักศึกษาไทยนิยมไปศึกษาเป็นจ านวนมาก อย่างเช่น มหาวิทยาลัยอัลอัซฮาร์ ประเทศอียิปต์
มหาวิทยาลัยนานาชาติอัฟริกา ประเทศซูดาน และมหาวิทยาลัยอัลบัยต์ ประเทศจอร์แดนเป็นต้น ซึ่ง
คาดว่าหากสามารถสร้างพันธมิตรทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยต่างๆเหล่านี้ได้ด้วยการร่วมมือทาง
วิชาการในรูปแบบต่างๆแล้ว น่าจะเป็นประโยชน์กับวิทยาลัยอิสลามศึกษา และประเทศไทยในการ
พัฒนาวิชาการทางด้านอิสลามศึกษาเป็นอย่างสูงยิ่ง กอปรกับมหาวิทยาลัยต่างๆที่ได้กล่าวถึงเป็น
มหาวิทยาลัยที่ได้มีแนวคิดและแนวการเรียนการสอนอิสลามศึกษาที่มีลักษณะความเป็นสายกลาง
(Moderate Islamist / wasatiah) และเป็นแนวคิดที่สอดคล้องกับบริบทของมุสลิมในประเทศไทย
เป็นอย่างยิ่ง จากความร่วมมือดังกล่าวการศึกษาอิสลามศึกษาในประเทศไทยน่าจะได้รับการยอมรับ
และได้รับการพัฒนาให้มีมาตรฐานในระนาบเดียวกันกับมหาวิทยาลัยต่างๆที่มีการเรียนการสอน
อิสลามศึกษาในต่างประเทศได้
การสัมมนาทางด้านอิสลามศึกษานานาชาติในครั้งนี้ นับได้ว่าเป็นครั้งแรกของ
โครงการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นภายใต้โครงการที่รัฐบาลสนับสนุนอนุมัติงบประมาณและ
เป็นโครงการแรกที่ได้รวบรวมผู้บริหาร นักวิชาการทางด้านอิสลามศึกษาจากสถาบันต่างๆทั่วโลก ทั้ง
ในแอฟรีกา ยุโรป ตะวันออกกลาง เอเซียใต้และอาเซียนในจ านวนที่มาก การสัมมนาครั้งนี้มีกิจกรรม
หลัก 4 กิจกรรมด้วยกัน คือ การน าเสนอผลงานทางวิชาการ การประชุมทวิภาคี (Bilateral
meeting) เพื่อความร่วมมือและพัฒนางานวิชาการอิสลามศึกษา การประชุมโต๊ะกลม (Roundtable
Meeting) เพื่อก าหนดปฏิญญา (Declaration) ร่วม และการทัศนศึกษา ผลที่ได้รับจากการ
ประชุมสัมมนาในครั้งนี้ คือ บทความทางวิชาการที่เป็นภาษาอาหรับและอังกฤษ จ านวน 27 บทความ
รายงานสรุปผลการประชุมทวิภาคีจ านวน 14 ฉบับ ปฏิญญาปัตตานี (FATONI DECLARATION) และ
ประสบการณ์ในการทัศนศึกษาเพื่อเยี่ยมชมสภาพสังคมมุสลิมที่เป็นจริงในจังหวัดภูเก็ต
ิ
จากการประเมินผลการด าเนินโครงการสัมมนานานาชาตเรื่อง Roles of Islamic
Studies in Post-Globalized Societies ครั้งนี้ จะพบว่าผลการประเมินด้านความพึงพอใจในด้าน
ต่างๆนั้น อยู่ในระดับความพึงพอใจระดับที่สูงเกือบทุกรายการ เช่น การประสานงานอยู่ในระดับ
4.17 การเดินทางของผู้เข้าร่วมอยู่ในระดับ 4.35 ที่พักอยู่ในระดับ 4.52 การกล่าวสุนทรพจน์ของ
ท่านประธานและผู้ทรงคุณวุฒิอยู่ในระดับ 4.12 การน าเสนอบทความทางวิชาการอยู่ในระดับ 4.02
สถานที่จัดการสัมมนาอยู่ในระดับ 4.52 และอาหารและเครื่องดื่มความพึงพอใจอยู่ในระดับที่ 4.72 ซึ่ง
เป็นความพึงพอใจในระดับที่สูงที่สุด ส่วนการประเมินผลการจัดสัมมนาในภาพรวมโดยการรวบรวมผล
จากการสัมภาษณ์สื่อต่างๆของผู้เข้าร่วมสัมมนาสรุป คือ การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมที่ได้รวบรวม