Page 37 - 025
P. 37
37
ี
พระราชบัญญติโรงเรยนเอกชน เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อ ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน
ั
ั
ี
ซึ่งใช้มาจนถึงปัจจุบันนี้ ดังนั้นเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญติโรงเรยนเอกชน พ.ศ. 2525
ิ
ิ
ี
์
ี
โรงเรยนราษฎรสอนศาสนาอสลาม จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม ในปี
พ.ศ. 2526 (ส านักพัฒนาการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เขตการศึกษา 2,2542 :85)
ี
ี
ิ
ั
ี
โรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามจัดเป็นโรงเรยนตามพระราชบัญญติโรงเรยนเอกชน
พ.ศ. 2525 ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 ลักษณะ คือ
1) โรงเรยนเอกชนตามมาตรา 15(1) เป็นโรงเรยนที่สอนวิชาศาสนาควบคู่กับวิชาสามัญ
ี
ี
ิ
ี
ตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามตามมาตรา 15 (1)
แบ่งย่อยได้อก 2 ลักษณะ คือ โรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามประเภทบรหารโดยสมาคมหรอ
ี
ิ
ี
ิ
ื
ุ
มูลนิธิ ซึ่งเป็นองค์บุคคลนิติบุคคล ทางราชการอดหนุนงบประมาณเป็นค่าใช้จ่ายรายหัว 100
ู
ี
เปอรเซ็นต์ ซึ่งโรงเรยนลักษณะดังกล่าว ทางราชการจะถอนข้าราชการครที่ไปช่วยสอนวิชาสามัญ
์
ู
ุ
ี
ออก เนื่องจากได้รบการอดหนุนไปจ้างครโดยเฉพาะแล้ว หากโรงเรยนมีความจ าเป็นต้องมี
ั
ู
ข้าราชการครที่ทางราชการส่งไปช่วยสอน จะต้องคืนเงินจ านวนเท่ากับวุฒิการศึกษาขั้นต้นของ
ี
ิ
ข้าราชการคนดังกล่าวให้แก่ทางราชการ และลักษณะที่ 2 คือ โรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม
ประเภทบุคคลเป็นผู้รบใบอนุญาต ซึ่งทางราชการจะอดหนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายรายหัว
ุ
ั
ี
ู
เช่นเดียวกับโรงเรยนเอกชนสามัญทั่วไป แต่ทางราชการจะส่งข้าราชการครส่วนหนึ่งสอนวิชา
สามัญปฏิบัติการสอนร่วมกับครูที่โรงเรียนจ้างสอน
ิ
ี
2) โรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลาม ตามมาตรา 15(2) แห่งพระราชบัญญติโรงเรยน
ั
ี
ิ
เอกชน พ.ศ. 2525 ซึ่งส่วนหนึ่งจัดการเรยนการสอนทางอสลามศึกษาตามหลักสูตรของ
ี
ี
กระทรวงศึกษาธิการ และอกส่วนหนึ่งจัดการเรยนการสอนวิชาสามัญตามหลักสูตรของ
ี
้
ู้
ี
กระทรวงศึกษาธิการควบคู่ไปด้วย แต่สภาพความพรอมทั้งบุคลากรและระบบการจัดการเรยนรยัง
ไม่เข้าเกณฑ์ของกระทรวงศึกษาธิการที่จะยกระดับสู่การเป็นโรงเรยนตามมาตรา 15 (1) แห่ง
ี
พระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2525
ี
ิ
สรปได้ว่า โรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามมีการเปลี่ยนแปลงจากปอเนาะมาเป็น
ุ
ี
โรงเรียนเรียนราษฎร์สอนศาสนาอิสลาม และมีการเปลี่ยนแปลงจนเป็นโรงเรยนเอกชนสอนศาสนา
อสลามในปัจจุบัน มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาการศึกษาของเยาวชนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่ม
ิ
ก าลังคนที่มีความรู้ ความสามารถเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการปกครอง