Page 70 - 023
P. 70
67. เคยได้รับค าชมเชยในการปฏิบัติงานจากผู้บังคับบัญชา 3.85 0.74 มาก
ั
68. เคยได้รบรางวัลตอบแทนในการปฏิบัติงานจาก 3.83 0.71 มาก
ผู้บังคับบัญชา
69. เคยได้รับค าชมเชยในการปฏิบัติงานจากเพื่อนร่วมงาน 3.85 0.73 มาก
ั
70.เคยได้รบความไว้วางใจในการปฏิบัติงานจาก 3.83 0.79 มาก
ผู้บังคับบัญชาโดยได้รับมอบหมายงานให้ท าอย่างใกล้ชิด
71. เพื่อนร่วมงานเชื่อถือหรือไว้วางใจในการปฏิบัติงาน 3.83 0.70 มาก
รวม 3.86 0.57 มาก
ตอนท 3 วิเคราะหความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับการปรบตัวด้านบทบาทหน้าทและ
ี่
ั
์
ี่
ด้านอัตมดนทัศน์ของเจ้าหน้าที่ต ารวจ
ั
ในการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับการปรบตัวของเจ้าหน้าที่
ต ารวจ พบว่าปัจจัยส่วนบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับการปรับตัวด้านบทบาทหน้าที่และ
ด้านอตมโนทัศน์ของเจ้าหน้าที่ต ารวจ ได้แก่ อายุ สถานภาพสมรส ศาสนา ระดับการศึกษา
ั
ภูมิล าเนาเดิม ระยะเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ และระดับชั้นยศ ปัจจัยด้านเศรษฐกิจและสังคม ได้แก่
รายได้ และความพอเพียงของรายได้ และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม ได้แก่ ที่อยู่อาศัยขณะปฏิบัติหน้าที่
และสภาพการท างานในที่ท างาน ที่มีผลต่อการปรับตัวของเจ้าหน้าที่ต ารวจ โดยการวิเคราะห์
ิ
ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณ(Multiple Regression Analysis) เพื่อวิเคราะห์อทธิพลปฏิสัมพันธ์
ระหว่างปัจจัยในด้านต่างๆ ที่มีผลต่อการปรับตัวของเจ้าหน้าที่ต ารวจ ดังมีรายละเอียดดังน ี้
ั
เมื่อศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยส่วนบุคคลกับการปรบตัวด้านบทบาทหน้าที่ของ
เจ้าหน้าที่ต ารวจ พบว่า ระดับชั้นยศ มีความสัมพันธ์กับการปรบตัวด้านบทบาทหน้าที่ของเจ้าหน้าที่
ั
ต ารวจ โดยการปรบตัวด้านบทบาทหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ต ารวจ แปรผันตามระดับชั้นยศ (B=0.221)
ั
อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติระดับ 0.01 และระดับการศึกษา มีความสัมพันธ์กับการปรบตัวด้าน
ั
บทบาทหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ต ารวจ โดยการปรบตัวด้านบทบาทหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ต ารวจจะแปร
ั
ผันตามระดับการศึกษา (B=0.070) อย่างมีนัยส าคัญทางสถิตที่ระดับ 0.001 เช่นเดียวกัน ในขณะที่
การปรบตัวด้านบทบาทหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ต ารวจจะแปรผกผันกับศาสนา (B= -0.303) อย่างมี
ั
นัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001 รายละเอียดดังตาราง 5 สามารถแสดงสมการพยากรณ์
59