Page 373 - 022
P. 373
373
ี
ื
ิ
จากนยามน้สามารถเข้าใจได้ว่า กรอบความเข้าใจเกี่ยวกับการเมองในอสลามนั้นไม่ได้ม ี
ิ
ื่
ุ
ี
ิ
ี
ื
ี
ั
เงอนไขว่า ต้องมบทบัญญัตจากอัลกุรอานหรอสนนะฮ์ของท่านนบ มารองรบ ชะรอะฮ์อสลาม
ิ
ุ
ื
ื
ุ
ิ
ั
ยอมรบทกกิจกรรมการเมองทดีและมความยุตธรรม พรอมกับปฏเสธกิจกรรมทางการเมองทก
ิ
ี
้
ี่
ื
ิ
ิ
ี
ี่
็
ประเภททเปนอธรรมและการละเมด การเมองในกรอบของชะรอะฮ์อสลามสามารถแบ่งตามความ
ี่
ื
่
็
็
็
ี่
ยุตธรรมออกเปนสองประเภท คอ 1) การเมองทเปนอธรรม ( ) ซงเปนทต้องห้ามใน
ิ
ื
ึ
้
ิ
ี่
่
ื
ิ
ชะรอะฮ์อสลาม 2) การเมองทยุตธรรม ( ) ซงยืนหยัดสัจธรรมและปกปองจากความ
ี
ึ
ื
ู
ื่
์
ี
็
ิ
ี
อยุตธรรมต่างๆ เปนสอกลางเพื่อไปส่เจตนารมณของชะรอะฮ์ การเมองในลักษณะดังกล่าวน้ถก
ู
ี
ิ
ก าหนดโดยชะรอะฮ์ให้ยึดถอและปฏบัตตามเพื่อให้สัจธรรมประจักษ์ข้นมา (Ibn ‘Abidin, 2003:
ื
ึ
ิ
ิ
็
ื
ี
ี่
ื
ิ
ุ
6/20) พฤตกรรมหรอการกระท าทขัดกับชะรอะฮ์อสลามของบรรดาผู้ปกครองมสลมไม่ถอว่าเปน
ิ
ื
ั
ิ
ี่
ิ
การเมองในทัศนะของอสลาม ดังทอัลสะคอวีย์ กล่าวว่า “ความผดพลาดอนมหนตของบรรดา
์
ั
ี่
ื
ี
สลตานและผูปกครองตางๆ ทเรยกการกระท าทออกนอกลูชะรอะฮของพวกเขาวาเปนการเมอง
ี่
็
่
์
ี
่
ุ
้
่
่
ิ
์
้
ื
ึ่
่
เพราะแทจรงแลวชะรอะฮนั้นคอ การเมอง ซงไมใชการกระท าตามอ าเภอใจหรอตามอารมณฝายต ่า
้
ื
่
ี
่
ื
์
ของบรรดาเหลาสลตาน” (Al-Sakhawi, n.d.: 90)
ุ
่
่
ิ
ศัพท์บัญญัตในทางกฎหมายอสลามทเกี่ยวกับการเมองอกค าหนงทควรท าความเข้าใจใน
ี่
ี่
ึ
ื
่
ี
ิ
ี
ึ
ี่
ี
่
ทน้ ีคอ ค าว่า “อัลสยาสะฮ์ อัลชัรอยะฮ์ ( )” ค าน้ ีมความหมายทกว้างมากซง
ื
ี่
ิ
ั
บทบัญญัตทว่าด้วยการบรหารจัดการกิจการของรฐหรอในอดตใช้ค าว่า “อะหกาม อัลสลฏอนยะฮ์
ิ
ี
ี
ุ
ื
ี่
ิ
์
ื
่
ึ
ิ
ึ
ิ
่
( )” ซงในนยามสมัยใหม่ตรงกับค าว่า “ระบบการเมอง” ก็เปนหัวข้อหนงในอัลสยา
็
ิ
ึ
ิ
ี
ิ
ื
ิ
สะฮ์ อัลชัรอยะฮ์ การศกษาวิจัยและน าไปปฏบัตจรงเกี่ยวกับระบบการเมองอสลามและการอจญ์
ิ
ื
ิ
ื
ตฮาดในการจัดตั้งองค์การทางการเมองอสลามตลอดจนการจัดระบบต่างๆ ในองค์การการเมอง
ิ
ื่
ิ
็
ุ
ิ
ี่
ิ
์
อสลามนั้นเปนเรองทอยู่ภายใต้ของศาสตรอัลสยาสะฮ์ อัลชัรอยะฮ์ทั้งส้น (Al-Sharif, n.d.) อับดล
ี
ี
ิ
อาล อะหมัด อฏวะฮ์ได้สรปนยามอัลสยาสะฮ์ อัลชัรอยะฮ์ในเชงการเมองว่า หมายถง การบรหาร
ิ
ื
ุ
ุ
ิ
์
ิ
ึ
ิ
ี่
จัดการกิจการของรฐอสลามทไม่ปรากฏบทบัญญัตทชัดเจนหรอการเปลยนแปลงแก้ไขบทบัญญัต ิ
ื
ั
ี่
ี่
ิ
ิ
ี่
ใหม่ในอันทจะรกษาผลประโยชน์ของประชาชาต (อมมะฮ์) ทสอดคล้องกับบทบัญญัตและ
ี่
ั
ุ
ิ
็
ี
์
ิ
กฎเกณฑ์พื้นฐานทั่วไปของชะรอะฮ์ (‘Utwah, 1993: 56) อัลสยาสะฮ์ อัลชัรอยะฮ์เปนศาสตรแขนง
ี
ี่
์
ึ
ิ
่
ี่
็
หนงทส าคัญในวิชาฟกฮ์ เพราะเปนศาสตรทท าให้ชะรอะฮ์มความสมบูรณ สามารถตอบสนอง
ี
์
ี
ึ
ิ
ุ
ี
ี่
็
ี่
ความจ าเปนและความต้องการของมนษย์ มความยืดหยุ่นตามสภาพข้อเท็จจรงทเกิดข้นในอันทจะ
ี
ิ
ี่
ิ
ิ
ี
รกษาผลประโยชน์ในทางปฏบัตได้ทกเวลาและสถานท ด้วยศาสตรอัลสยาสะฮ์ อัลชัรอยะฮ์น้ท าให้
ั
ุ
์
ึ
ิ
เกิดการพัฒนาการในบทบัญญัตชะรอะฮ์ พรอมๆ กับการวิวัฒนาการของสังคม ซงท าให้สังคมต่างๆ
ี
้
่
ี
ึ
ี
สามารถด ารงอยู่กับชะรอะฮ์ได้ ถงแม้ว่าไม่มตัวบทอัลกุรอานหรอสนนะฮ์ของท่านนบ ไม่ม ี
ื
ุ
ี
ี่
ื
ี
็
ี
ี่
ความเหนทพ้องต้องกันของบรรดาอละมาอ์ หรอไม่มต้นแบบทจะเปรยบเทยบก็ตาม ซงดังกล่าวน้ ี
่
ี
ึ
ุ