Page 292 - 022
P. 292
292
ิ
4) เพื่อการบรจาคทาน
ี
ี
เศาะหาบยาตบางท่านในยุคสมัยของท่านนบ ได้ท างานหารายได้ไม่เพียงแต่เพื่อ
ั
ั
ี่
ี
สนองตอบปจจัยยังชพของตนเองและครอบครวเท่านั้น แต่พวกนางต้องการหารายได้เพื่อทสามารถ
ิ
ี
ี
มส่วนร่วมในการบรจาคทานในหนทางของพระเจ้าด้วย ดังตัวอย่างเช่น ในกรณของท่านหญงซัย
ิ
ี
ิ
่
ิ
ฺ
นับ บนต์ ญะหช์ ซงมรายงานจากท่านหญงอาอชะฮ์เล่าว่า ท่านหญงซัยนับท างานหารายได้ด้วยล า
ิ
ิ
ึ
ิ
แข้งของนางเอง และนางได้บรจาคทานจากรายได้ของนาง (Muslim: 2452) ซงความจรงแล้วท่าน
่
ิ
ึ
ิ
ี่
ั
็
ี
ั
ี
ี
หญงซัยนับในฐานะทเปนภรรยาของท่านนบ นางได้รบการจัดสรรปจจัยยังชพจากท่านนบ
ื่
ี่
เหมอนกับภรรยาท่านอนๆ แต่ทนางได้ลงมอท างานหารายได้เองนั้นไม่ได้หมายความว่า นางขัดสน
ื
ื
ึ
ี
ื
็
ิ
ั
ื
ในปจจัยยังชพ แต่นางเปนคนชอบบรจาคทาน จงได้ลงมอท างานหารายได้อย่างแข็งขันด้วยน ้ามอ
ั
ี่
ิ
ิ
ิ
็
น ้าแรงของนางเองเพื่อใช้ในการบรจาคทาน ดังทท่านหญงอาอชะอ์ได้ยกย่องนางว่า “ฉนไมเคยเหน
่
ี่
ิ
่
ุ
ใครทประเสรฐทสดในเรองศาสนาเทากับทานหญงซยนับ นางเปนคนทย าเกรงตอพระองคอลลอฮ ฺ
ี่
ั
็
ี่
ื่
์
่
่
ิ
ั
ั
ุ
ี่
้
็
ี่
ุ
ี่
ิ
ี่
้
ี่
็
ุ
ุ
มากทสด เปนผูทมสจจะทสด เปนผูสานไมตรกับผูอนมากทสด เปนผูทบรจาคทานมากทสด และ
ี
ี
ี่
้
้
็
ื่
็
้
เปนผูทมเทในการท างานหารายไดมากทสด ซงดวยรายไดน้ท าใหนางสามารถบรจาคทานและท า
ิ
้
้
ี
ึ่
้
ุ
ี่
้
่
ุ
ฺ
ิ
์
ั
ใหนางใกลชดกับพระองคอลลอฮ...” (Muslim: 2442)
้
้
ฺ
ิ
ุ
ี
ในกรณของนางซัยนับ ภรรยาของอับดลลอฮ อบน มัสอดก็เช่นกัน นอกจากท างานหา
ุ
ู
ั
ึ
ี
่
ี
ุ
ื
รายได้เพื่อเล้ยงชพในครอบครวแล้ว รายได้จากน ้ามอน ้าแรงของนางส่วนหนงใช้ในการอปการะ
เล้ยงดเด็กก าพราทอยู่ภายใต้การดแลของนางด้วย (Bukhari:1466) ซงเข้าใจว่าเปนบรรดาลกๆ ของพี่
ี่
็
ึ
้
ี
ู
่
ู
ู
ื
ี่
ิ
้
น้องของนางหรอบรรดาหลานของนางทก าพราบดา (Ibn Hajar, 2005a: 4/307) นั่นหมาย ความว่า
ื
ั
การท างานหารายได้ของนางนอกจากเพื่อครอบครวของนางเองแล้ว ยังสามารถช่วยเหลอครอบครว
ั
ี่
ี
ของพี่น้องของนางทยากจนอกด้วย
นอกจากน้การออกไปท างานเก็บผลอนทผลัมของน้าสาวญาบร อบน อับดลลาฮ ซงนางอยู่
ิ
ิ
ิ
ี
ิ
ุ
่
ึ
ฺ
ี่
ี
ี
ู
ในระหว่างการรออดดะฮ์ทถกสามหย่าขาดนั้น นอกจากเพื่อแสวงหาปจจัยยังชพของนางเองแล้ว
ั
ิ
ี
ี
่
่
ิ
ี่
เชอว่ารายได้ส่วนหนงเพื่อใช้ในการบรจาคทานอกด้วย ดังทท่านนบ ได้กล่าวแก่นางว่า “หวังวา
ึ
ื่
ด้วยการเก็บผลอนทผลัมน้เธอสามารถบรจาคทานหรอใชจายในสงทด” (Muslim: 1483)
ี
ิ
ื
ิ
ี
ิ่
ี่
้
่
ั
็
ี
ี่
จากปจจัยทกล่าวมาทั้งหมดข้างต้นสามารถเปนหลักฐานและข้อโต้แย้งเปนอย่างดแก่กล่ม
ุ
็
ี
ี่
็
ี่
ุ
ี
็
ุ
มสลมสดโต้งบางกล่มทเหนว่า สตรห้ามออกไปประกอบสัมมาอาชพยกเว้นในกรณทจ าเปน
ุ
ิ
ี
็
ี่
ิ
ิ
ุ
ุ
( ) เท่านั้น โดยพวกเขาให้เหตผลว่าในภาวะทจ าเปนนั้นอนมัตให้กระท าได้แม้ว่าโดยปกตเปน
็
ึ
ี
ี่
ส่งทต้องห้ามก็ตาม อกทั้งสามารถกระท าได้เพียงแค่ในระดับทให้พ้นจากภาวะทจ าเปนเท่านั้น ซง
ิ
่
ี่
็
ี่
ุ
ี
กล่มน้ถอว่าการประกอบอาชพของสตรเสมอนกับการกินซากสัตว์ในภาวะทจ าเปนซงถ้าไม่กินแล้ว
ื
ึ
ื
็
่
ี
ี่
ี
ิ
ิ
ี
อาจต้องตายเพราะความหว (Abu Syuqqah, 1999: 2/411) แนวคดดังกล่าวน้มความขัดแย้งกับ
ี