Page 251 - 013
P. 251
246
ื
ี่
ิ
ึ
่
และ มตร เจะหลง (2555) กล่าวว่า “ซงความขัดแย้งส่วนใหญ่ทพบ คอ ความขัดแย้งภายในตัว
ุ
ู
ั
ี
บคคล เช่น บคลกภาพ การเอาใจตนเอง ความไม่เข้าใจ และขาดความรบผิดชอบ ครมหน้าทต้อง
ุ
ิ
ี่
ึ
ู
ั
ึ
่
ั
ี่
ั
ี่
รบผิดชอบงานทได้รบมอบหมายแต่ปญหาทเกิดข้น ซงครบางคนละเลยต่อหน้าท ท างานไม่โปรง
ี่
ใส่ เปนต้น”
็
ื่
ิ
์
็
เมอพิจารณาเปนรายข้อขององค์ประกอบด้านปฏสัมพันธพบว่า การแข่งขัน
ิ
ั
ิ
ชงด ชงเด่น ไม่รบฟงความคดเหนของผู้อนและการประสานงานทไม่มประสทธภาพเปนสาเหตของ
็
ั
็
ื่
ิ
ิ
ิ
ุ
ี่
ี
ี
็
ี
ิ
ความขัดแย้งล าดับแรกและการอจฉารษยา กลั่นแกล้งกัน ขาดความสามัคคเปนล าดับสดท้าย ซง
่
ึ
ุ
ิ
ื่
ผลการวิจัยน้สอดคล้องกับค ากล่าวของ สมคด บางโม (2545 : 262) กล่าวว่า เรองทขัดแย้ง
ิ
ี่
ี
ื
ภายในองค์การ โดยยึดค่กรณเปนหลักอาจแบ่งความขัดแย้งได้ 3 ประเภท ดังทน้คอ ความขัดแย้ง
ี
ี
ี่
ู
็
ภายในตัวบคคล ความขัดแย้งระหว่างตัวบคคล เกิดจากความคดเหนไม่เหมอนกัน และความ
ื
ิ
ุ
็
ุ
ุ
ี
ุ
ขัดแย้งระหว่างกล่ม สอดคล้องกับ อับดลเลาะ อัซซอมาดย์ (2555) กล่าวว่า “เกิดจากความ
ี่
ิ
ื
คดเหนทไม่เหมอนกัน บทบาทต่างกัน เช่น เกิดจากความขัดแย้งระหว่างทมงานหรอความขัดแย้ง
็
ื
ี
ื
ี
้
ึ
่
ระหว่างหน่วยงาน ซงเกิดจากวิธการท างานหรอเปาหมายในการท างานต่างกัน”
ื่
เมอพิจารณาด้านสภาพขององค์กรเปนรายข้อ พบว่า ความขาดแคลนใน
็
ทรพยากรทใช้ในการบรหารเปนสาเหตของความขัดแย้งล าดับแรก และการท างานทมการแข่งขัน
ี่
ั
็
ิ
ี่
ุ
ี
ม่งเอาชนะระหว่างบคคลหรอฝายเปนล าดับสดท้ายซงสอดคล้องกับ เสรมศักด์ ิ วิศาลาภรณ
ิ
ึ
์
่
ุ
ุ
่
็
ุ
ื
ั
ึ
ี
ึ
ี่
(2534 : 71) ทกล่าวว่าความขัดแย้งในวงการศกษาเกิดจาก ทรพยากรในการศกษามไม่เพียงพอกับ
ึ
ี่
ี่
ี
ั
ความต้องการของบคคลในสถานศกษา หรอองค์กรทเกี่ยวข้องกับการศกษา ทรพยากรในทน้อาจ
ึ
ื
ุ
ี่
ื
ุ
ิ
์
็
ี่
็
เปนส่งทเหนได้และส่งทเหนไม่ได้ เช่น คน เงน วัสดอปกรณ ต าแหน่ง สถานภาพ หรอชอเสยง
ี
ุ
ื่
ิ
ิ
็
ุ
ั
ิ
ี่
ี
ิ
เกียรตยศ สอดคล้องกับ นายอับดลฮามด จะปะกียา (2555) กล่าวว่า “ปญหาทางโรงเรยนทได้
ิ
ิ
ั
ุ
ื
พบเจอ คอ ปญหาการขาดแคลนบคลากรและงบประมาณในการบรหารจัดการ เช่น เงน วัสด ุ
ุ
ี
ึ
์
่
ี่
ิ
็
อปกรณการใช้ในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ซงล้วนแต่เปนส่งททางโรงเรยนต้องจัดสรรให้ เพราะใน
ี
ี่
ี่
การใช้งบประมาณทมอยู่อย่างจ ากัด” และเช่นเดยวกับนายอับดรเราะฮ์มาน สาและ (2555) ทได้
ุ
ี่
ื่
กล่าวว่า “ส่วนปญหาในด้านของโรงเรยน ก็ส่วนใหญ่เกิดข้นจากการขาดแคลนเครองหมาย
ั
ี
ึ
ื่
ี
ื
เครองมอในการบรหารจัดการ อาจจะมความไม่พอใจบ้าง ”
ิ
วัตถุประสงคขอที่ 2 เพื่อศกษาระดับการจัดการความขัดแย้งของผู้บรหาร
ิ
ึ
้
์
โรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามในจังหวัดปตตาน
ิ
ี
ี
ั
ี
ิ
ี
ั
การจัดการความขัดแย้งในโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามในจังหวัดปตตาน
ี
ี
ิ
็
ี่
พบว่า ผู้บรหารมวิธการจัดการความขัดแย้งโดยใช้แบบประนประนอมและแบบไกล่เกลยเปน
ี