Page 184 - 013
P. 184
184
ิ
ในส่วนของผู้บรหารสามารถลดปญหาความขัดแย้งจากสาเหตน้ ีได้ โดยการ
ุ
ั
ุ
ิ
ุ
ปรองดองด้วยระบบคณธรรมมากกว่าระบบอปถัมภ์ และการน าระบบการประเมนผลการ
ปฏบัตงานทมประสทธภาพ ตลอดจนการพิจารณาความดความชอบของบคลากรด้วยความยุตธรรม
ิ
ี่
ิ
ี
ิ
ุ
ิ
ี
ิ
ิ
ิ
ี
ยึดผลการปฏบัตงานเปนทตั้ง จะท าให้บคลากรในโรงเรยนตระหนักถงความส าคัญของการ
ุ
ี่
ึ
็
็
ิ
ุ
ู
้
ุ
ุ
็
ปฏบัตงานและม่งเน้นการบรรลส่เปาหมายและวัตถประสงค์ขององค์การเปนส าคัญ เปนการ
ิ
ุ
ี
ประสานเปาหมายขององค์การเข้ากับเปาหมายส่วนบคคลได้เปนอย่างด ส่วนสาเหตทเกิดจากการ
้
ุ
็
้
ี่
ั
ี่
จัดสรรทรพยากรทมอยู่จ ากัดนั้น ผู้บรหารควรพิจารณาทบทวนการจัดสรรทรพยากรทางการ
ั
ี
ิ
ั
็
ั
ุ
ี่
บรหารใหม่ เพื่อจัดสรรให้บคลากรทรบผิดชอบงานได้รบทรพยากรทจ าเปนอย่างเพียงพอ หาก
ั
ิ
ี่
ุ
ั
ไม่สามารถจัดสรรทรพยากรได้อย่างทั่วถง และเพียงพอกับความต้องการของบคลากร ผู้บรหาร
ึ
ิ
ิ
ุ
ี่
ึ
ั
ี
ควรมค าอธบายทชัดเจนถงเหตและผลในการจัดสรรทรพยากรดังกล่าว การน าเอาการว่างแผนงาน
็
ุ
็
็
ี
ร่วมกันอย่างเปนระบบในแต่ละป จะช่วยให้บคลากรเหนความจ าเปนของโครงการและกิจกรรมใน
ิ
โรงเรยนร่วมกันและเข้าใจเหตผลและความจ าเปนในการจัดสรรทรพยากรของฝายบรหาร ซงจะ
ี
็
ึ
่
่
ุ
ั
ี
ุ
ลดความขัดแย้งจากสาเหตน้ลงได้
3. จากผลการวิจัยซงแสดงถงการจัดการความขัดแย้งของผู้บรหารโรงเรยนเอกชน
ึ
่
ี
ึ
ิ
ี
ุ
ี
ี่
สอนศาสนาอสลามในจังหวัดปตตาน พบว่า ผู้บรหารใช้วิธประนประนอมมากทสด รองลงมา
ิ
ั
ี
ิ
ื
ได้แก่ การใช้วิธการไกลเกลย การร่วมมอ การปรองดอง เผชญหน้า บังคับ และการหลกเลยง
ี
ี่
ี
ิ
ี่
ี
ิ
ี
ึ
ี่
ตามล าดับ โดยมค่าเฉลยของการใช้ วิธการต่าง ๆ ใกล้เคยงกัน แสดงถงการใช้วิธการบรหารท ี่
ี
ี
ิ
์
ิ
์
ี
หลากหลายตามสถานการณ และประสบการณของผู้บรหารแต่ละคน ซงผู้บรหารควรจะมศลปะ
ิ
่
ึ
ในการประนประนอม การจัดการกับความขัดแย้งแบบประนประนอมเปนแบบการเจรจาต่อรอง
ี
ี
็
็
่
ึ
ม่งให้ทั้งสองฝายมความพึงพอใจหรอเปนลักษณะพบกันแบบครงทาง เปนแบบทเหมาะจะใช้ใน
ุ
ื
็
ี
่
ี่
ี
้
ี่
่
ี่
สถานการณทแต่ละฝายมเปาหมายทไปด้วยกันไม่ได้
์
ิ
็
ิ
ี
็
ี
นอกจากน้ผลของการวิจัยแสดงให้เหนอกว่าทั้งความคดเปนของผู้บรหารเอง และ
ิ
็
ิ
ี
ี
ผู้จัดการต่างเหนว่าผู้บรหารใช้วิธการประนประนอมเปนอันดับแรก ผู้บรหารโรงเรยนเอกชนสอน
็
ี
ศาสนาอสลามจงควรให้ความส าคัญและให้เวลาในการจัดการความขัดแย้งทเกิดข้นในโรงเรยนให้
ี่
ึ
ึ
ิ
ี
ี
้
ู
ิ
ี
มากข้น นอกจากน้หากผู้บรหารโรงเรยน มความรความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการความขัดแย้ง
ี
ึ
และปรบเปลยนส่งทมต่อความขัดแย้ง และการจัดการความขัดแย้งทถกต้องแล้ว จะช่วยให้การ
ั
ี่
ี
ี่
ู
ี่
ิ
จัดการความขัดแย้งของผู้บรหารโรงเรยนเอกชนสอนศาสนาอสลามในจังหวัดปตตาน ม ี
ิ
ี
ิ
ี
ั
่
ิ
ู
ึ
ึ
ประสทธภาพสงข้น ซงจะส่งผลต่อขวัญและก าลังใจในการท างานของบคลากรและควบคมความ
ุ
ุ
ิ
ี่
ิ
ขัดแย้งให้อยู่ในระดับพอเหมาะทจะส่งผลดต่อการดด าเนนงานขององค์การต่อไป
ี