Page 33 - 0051
P. 33
26 จุฑา ธรรมชาติ และศุภกาญจน์ บัวทิพย์
้
ุ
การจัดการเรียนร�เชิิงรก
�
้
ี
เป็นแนวที่างจัดการเรียนร�ที่เน�นให�ผู้้�เรียน
�
�
ั
ได “คด” ได “ล้งมือที่า” “ร�วมกน”
ิ
ำ
ี
�
หากมีคำถามว่าการสอนแบบบรรยายเป็นการเรียนร้�เช้ิงรุกหรอไม่ ก่อนที่ี�จะตอบคำถามน�จำเป็นจะตอง
่
พื่ิจารณาถึงร้ปแบบการบรรยายก่อนว่าในการบรรยายน�นมีการกระต�นใหผู้�เรียนได้�คด้ได้ตอบคำถาม แสด้งความคิด้เห็น
ิ
ั
�
ุ
้
�
ั
หรอมีปฏิสัมพื่ันธีกับเน�อหาระหว่างการบรรยายหรอไม่ ถาการบรรยายน�นเปด้โอกาสใหผู้�เรียนน�งฟัังผู้้�สอนอย่างเต็มที่ี �
่
ั
่
ิ
์
�
ิ
้
่
�
่
ั
ิ
โด้ยปราศจากปฏิสัมพื่ันธี์ที่�งกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม คำตอบก็คอการบรรยายน�นไม่ใช้่การจัด้การเรียนร้ �
ั
่
ิ
้
้
ั
เช้ิงรุกอย่างแน่นอน เพื่ราะผู้�เรียนรับความร�จากผู้�สอนเพื่ียงฝ่่ายเด้ียว ไม่ได้�พื่้ด้หรอแสด้งความคด้เห็นในช้�นเรียนแต ่
้
�
้
ึ
้
ั
ุ
�
้
อย่างใด้ แต่ถาการบรรยายน�นได้�สรางปฏิสัมพื่ันธี์ใหเกิด้ข�นระหว่างผู้�สอนกับผู้�เรียน โด้ยผู้�สอนใช้�คำถามกระต�นให �
ิ
�
ั
ผู้�เรียนคิด้ ผู้�เรียนมีส่วนร่วมแสด้งความคิด้เห็นหรออภิิปรายถึงเน�อหาในบที่เรียนด้�วย กถอว่าการบรรยายน�น
็
้
่
่
่
้
ี
ั
้
ั
้
้
�
เป็นการจด้การเรียนร�เช้ิงรุกได้ แต่เป็นการจด้การเรียนร�เช้ิงรุกแบบเบา ๆ จากคำอธีิบายด้ังกล่าวน� คณะผู้�เขียนเช้�อว่า
่
ั
ผู้้�อ่านจะเข�าใจนิยามของการจด้การเรียนร้�เช้ิงรุกอย่างถ้กต�องมากขึ�น
ธรรมชิาติข้องการจัดการเรียนร�เชิิงรกเป็นอย�างไร
ิ
้
ุ
้
�
ก่อนที่ี�คณะผู้�เขียนจะอธีิบายธีรรมช้าติของการจัด้การเรียนร้�เช้ิงรุกจะขออธีิบายตนกำเนิด้ของการจัด้
่
�
�
�
้
ี
การเรียนร้ลักษณะน�ใหผู้อ่านเขาใจเสียก่อน เพื่ราะเช้�อว่าหากผู้อ่านเขาใจความเป็นมาแลวก็น่าจะมองภิาพื่ได้�ง่าย
�
�
�
�
้
ี
ั
ว่าจะต�องจด้กิจกรรมการเรียนร้�เช้ิงรุกอย่างไรต่อไป การเรียนร้�เช้ิงรุกเป็นคำกว�าง ๆ ส่�อถึงแนวการสอนที่�อย้่บน
่
แนวคิด้และที่ฤษฎีีการเรียนร้� 3 ที่ฤษฎีี คอ แนวคิด้การศึกษาพื่ิพื่ัฒนาการนิยม (progressivism) ที่ฤษฎีีสรรคนิยม
(constructivism) และที่ฤษฎีีการเรียนร้�แบบร่วมมอ (cooperative learning) แนวคิด้การศึกษาพื่ิพื่ัฒนาการนิยม
่
�
้
ุ
�
เนนใหผู้�เรียนเกด้การเรียนร�จากการลงมอที่ำ เราจะค�นเคยคำกล่าวของนักปรัช้ญาการศึกษาคนสำคัญของโลกอย่าง
้
่
ิ
John Dewey ว่า “Learning by Doing” ส่วนที่ฤษฎีีสรรคนิยมอธีิบายว่าการเรียนร้�เป็นกระบวนการที่างสมอง
่
่
่
�
ิ
ึ
ี
�
ที่เกด้จากการสรางความรด้�วยตนเองอยางกระตอรอรนมากกว่าการเป็นผู้รับความร� ซึ่�งแนวคด้ที่�งสองนม ี
ั
ี
�
�
�
้
้
ิ
�
้
้
่
ั
้
่
�
ิ
ิ
�
ี
�
้
่
ความสอด้คลองกันตรงที่�ผู้�เรียนตองคด้และลงมอที่ำเพื่�อใหเกด้การเรียนร� สำหรับที่ฤษฎีีการเรียนร�แบบร่วมมอน�น
้
�
ิ
กล่าวถึงการเรียนรร่วมกันระหว่างผู้�เรียนโด้ยอาศัยปฏิสัมพื่ันธี์และการที่ำงานร่วมกันเพื่�อใหบรรลุเป้าหมายที่ � ี
่
�
้
�
ุ
่
�
่
�
้
่
ุ
กำหนด้ไว ซึ่ึ�งอาจจะเป็นการเรียนร�แบบกลมเล็กหรอกลมใหญก็ได้ แต่สมาช้ิกทีุ่กคนตองร่วมมอกันรับผู้ด้ช้อบงาน
ิ
่
่
็
ั
ี
ึ
่
�
ิ
็
ุ
�
่
็
และถอวาความสำเรจของกลมคอความสำเรจของที่กคน สงนแสด้งใหเหนถงปฏิสมพื่นธีแบบรวมมอรวมใจที่ ี �
่
่
ุ
์
�
ั
่
่
่
ิ
เกด้ขึ�นในช้ั�นเรียน
ิ
จากแนวคด้ด้ังกล่าว อาจเกด้คำถามว่ากิจกรรมการเรียนร้�เช้ิงรุกจะต�องให�นักเรียนที่ำงานเป็นกลุ่มใช้่หร่อไม ่
ิ
ิ
ิ
่
คำตอบก็คอ “ไม่” ไม่จำเป็นเสมอไป เพื่ราะการสรางปฏิสัมพื่ันธี์การเรียนร้�แบบร่วมมอมีหลายวิธีี การใหผู้�เรียนร่วมกัน
้
่
�
�
่
อภิิปรายสรุปเน�อหาที่ายคาบเรียนก็เป็นการจัด้การเรียนร้�แบบร่วมมอได้� เพื่ราะธีรรมช้าติของการจัด้การเรียนร้ �
่
�
ิ
เช้ิงรุกนั�น เปด้โอกาสให�ผู้้�เรียนได้�คด้ ลงม่อที่ำ ศึกษาค�นคว�า และสร�างความร้�ด้�วยตนเอง โด้ยอาศัยปฏิิสัมพื่ันธี ์
ิ
่
้
้
้
่
ี
�
้
้
้
่
�
การเรียนร�แบบร่วมมอร่วมใจกันระหว่างผู้�สอนกับผู้�เรียน หรอระหว่างผู้�เรียนด้วยกันเอง หรอผู้�เรียนกับผู้�เก�ยวของ
่
่
่
ี
้
โด้ยผู้�เรียนจะต�องเป็นผู้มีความกระตอรอรน กระฉับกระเฉง และใฝ่่เรียนร� ไม่กลัวที่�จะคด้หรอพื่้ด้แสด้งความคิด้เห็น
้
ิ
�
้
�
ิ
ี
ิ
ั
ที่�แตกต่าง การจด้การเรียนร้�เช้ิงรุกจึงมุ่งเสริมสร�างความกล�าแสด้งออกที่างความคด้ ด้ังนั�น ความคด้หร่อคำตอบ
ของผู้เรยนที่คลาด้เคลอนไปยอมไมใช้ความผู้ด้พื่ลาด้อันยงใหญอกตอไป แต่ผู้สอนจะตองมความตระหนกและ
ิ
่
ั
่
่
ี
�
�
่
ี
�
�
ี
้
่
ิ
�
ี
�
้
่
�
่
�
�
้
้
�
�
ั
่
�
รจักนำเร�องด้ังกล่าวมาอภิิปรายในช้�นเรียน เพื่�อสรางความเขาใจที่ีถกตองตรงกันและเสริมสรางการเรียนร้�ให�มี
ความหมายมากยิ�งขึ�น