Page 106 - 005
P. 106
106
และสอดคล้องกับท่านนบ กล่าวว่า
ี
ั
ความว่า “ท่านพึงต้องซอสัตย์รบผิดชอบต่อผู้ทให้ความไว้วางใจต่อท่าน
ื่
ี่
ิ
ิ
ิ
ี่
และอย่าบดพล้วแม้กับผู้ทเคยบดพล้วต่อท่านก็ตาม”
ิ
ึ
(บันทกโดย al-Tirmizi : 1264)
ี
ส่วนผลการเปรยบเทยบตามตัวแปรประสบการณ พบว่า โดยภาพรวมและรายด้าน
ี
์
ิ
็
ี่
ี
แตกต่างกันอย่างมนัยส าคัญทางสถตทระดับ .05 ทกด้าน ทั้งน้อาจเปนเพราะประสบการณ ความ
ิ
์
ี
ุ
ึ
ี
เชยวชาญ และอายุการท างาน ตลอดจนการได้รบข้อมูลข่าวสารเปนไปอย่างไม่ทั่วถง หรออาจมอยู่
ื
็
ี่
ั
ในระดับหนงเท่านั้น ซงสอดคล้องกับอัลลอฮฺ ตรสถงความแตกต่างระหว่างบคคลว่า
่
ึ
ุ
่
ึ
ั
ึ
ี
ื
ิ
ความว่า : “และได้ทรงเทดบางคนของพวกเจ้าเหนอกว่าอกบางคนหลายขั้น
เพื่อทพระองค์จะทรงทดสอบพวกเจ้าในส่งทพระองค์ได้ทรงประทานแก่
ิ
ี่
ี่
พวกเจ้า” (อัลอันอาม : 165)
สอดคล้องกับอทัย บญประเสรฐ (2543 : 26-31) กล่าวถงความเชอเรองธรรมชาตของ
ุ
ุ
ิ
ื่
ื่
ิ
ึ
ี
ี
ื
ี
ิ
มนษย์ตามแนวคดของ Mc Gregor ม 2 แนวทางคอ ทฤษฎ X และทฤษฎ Y ตามแนวคดทฤษฎ X
ุ
ิ
ี
ุ
เชอว่ามนษย์ข้เกียจและขาดความรบผิดชอบ ดังนั้นจงต้องใช้วิธการบังคับหรอควบคมการท างาน
ื
ื่
ึ
ี
ุ
ั
ี
ี
ิ
ุ
ี
อย่างใกล้ชด ส่วนทฤษฎ Y เชอว่ามนษย์มความขยัน ชอบท างาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าสภาพการ
ื่
ู
ี
ั
ี
ี
ท างานมความเหมาะสม และคนมส่วนร่วมในการท างานโดยไม่ถกบังคับก็ยิ่งจะมความรบผิดชอบ
็
ิ
ี
ึ
ึ
มากข้น และกล่าวถงความคดเกี่ยวกับความเปนองค์การของโรงเรยน (Concept of School
ี
ี่
็
Organization) ว่า โรงเรยนไม่ใช่เปนเพียงสถานศกษาทเตรยมอนาคตให้แก่เดกเท่านั้น แต่ยังเปน
ึ
ี
็
็
ี
ู
ิ
ิ
สถานทๆนักเรยน คร และผู้บรหารได้อยู่ร่วมกัน อาศัย เตบโตและพัฒนาไปด้วยกัน หากไม่มการ
ี่
ี
ิ
ู
ื
็
ู
ื่
พัฒนาคร ครและผู้บรหารไม่ร่วมมอกันแล้ว การพัฒนาก็ไม่เปนไปอย่างต่อเนอง จะไม่ท าให้
ี
ิ
ี
ิ
ี่
นักเรยนมชวิตการเรยนทมคณค่าและมคณภาพทแท้จรงได้ โรงเรยนทบรหารตามแนวคดน้จงเปน
ี่
ี
ึ
ี
ี่
ี
ิ
ุ
ี
ี
ี
็
ุ
็
ู
ั
ิ
ี
่
ึ
สถานทๆเดกได้เตบโต ผู้บรหารและครได้รบการพัฒนา ซงผลการพัฒนาร่วมกันเหล่าน้ท าให้
ี่
ิ
ี
ิ
ิ
ิ
ี
เกิดผลดต่อประสทธผลของโรงเรยนโดยรวม และสอดคล้องกับ พิสฐ พิษณานนท์ (2530 : 21) ท ี่
ุ
ื
ิ
ิ
ี
กล่าวว่า มนษย์แต่ละคนมความสามารถ ความฉลาด เจตคต หรอส่งแวดล้อมรอบตัวแตกต่างกันไม่
ี
ิ
ื
ิ
ว่ามากหรอน้อย จะท าให้มนษย์มความคด และการปฏบัตงานแตกต่างกันออกไป
ุ
ิ