Page 263 - 001
P. 263

252


                   โลมอยู่กึ่งกลางระหว่างพระขนงตามความในคัมภีร์ลักขณสูตร ครองจีวรห่มเฉียง มีริ้วเฉพาะที่

                   ไหล่ เปิดอังสาขวา ผ้าจีวรบางโปร่งใสจนเห็นพระถัน พระนาภี รัดประคด และองคเพศ
                   ด้านหลังพระเศียรมีศิรประภาที่มักประดับขอบด้วยลายครึ่งวงกลมขนาดเล็ก พระพักตร์อิ่มเอิบ
                   อมยิ้ม ในขณะที่รูปทรงและทรวดทรงมีความหนัก ไม่แสดงกล้ามเนื้อชัดเจน ส่วนอิริยาบถนั้น

                   หากเป็นท่ายืนจะยืนในท่าสมภังค์เสมอ และมักจะทำอภัยมุทรา นอกจากนี้ ยังทำรูปพระ
                                                                                             ุ
                   โพธิสัตว์ทั้งเมตไตรยะ อวโลกิเตศวร และวัชรปาณี อีกทั้งยังนิยมสลักภาพเล่าเรื่องพทธประวัติ
                       11
                   ด้วย  เห็นได้อย่างชัดเจนว่า สกุลช่างมถุราในช่วงเริ่มต้นได้สืบสานรูปแบบประติมากรรมมาจาก
                   สมัยโมริยะ พระพุทธรูปจึงมีรูปร่างคล้ายยักษาในศิลปะอินเดียโบราณก่อนหน้านี้
                          เมื่อเข้าสู่พุทธศตวรรษที่ 8-9 อิทธิพลจากศิลปะคันธาระและอมราวดี ทำให้รูปแบบของ

                        ุ
                   พระพทธรูปเปลี่ยนแปลงไป ที่ปรากฏเด่นชัดคือ จีวรห่มคลุมเป็นริ้วและมีอุษณีษะเป็นมวยผม
                   (ตามแบบศิลปะคันธาระ) ซึ่งนอกจากการสร้างประติมากรรมเนื่องในพทธศาสนาแล้ว สกุล
                                                                                    ุ
                   ช่างมถุรายังสร้างประติมากรรมรูปเคารพในศาสนาฮินดู และประติมากรรมภาพเหมือนบุคคล
                   อีกด้วย เช่น รูปพระเจ้ากนิษกะ เป็นต้น








































                                       ภาพที่ 103 ประติมากรรมสกุลช่างมถุราระยะแรก
                   ที่มา : https://commons.wikimedia.org//[Online], accessed 29 October 2018.






                          11  จิรัสสา คชาชีวะ, โบราณคดีอินเดีย, หน้า 468.
   258   259   260   261   262   263   264   265   266   267   268