Page 41 - 0006
P. 41

32


                       นโยบายของรัฐการจัดเก็บซะกาตในสมัยท่านอุมัรจึงเป็นไปด้วยความสะดวกเนื่องจากได้รับความ

                       ร่วมมืออย่างดีจากประชาชนหลักธรรมาภิบาลของท่านอุมัรที่ส าคัญก็คือ การเป็นแบบอย่างของความ
                                                                                                      ้
                       สมถะ ความเรียบง่าย ความเคร่งครัดในวิถีปฏิบัติทางศาสนาและการมีคุณธรรมอันสูงส่งในการใชจ่าย
                                                                                                      ิ
                       ทรัพย์สินของรัฐท่านได้ก าหนดให้สิ่งเหล่านี้เป็นนโยบายที่ขารัฐการทุกคนต้องปฏบัติ
                                                                                 ้
                       ตัวอย่างเช่น ท่านไม่อนุญาตให้ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของท่านประกอบธุรกิจการค้าและไม่อนุญาต
                                                                             ื
                                                                  ่
                       ให้รับของก านัล (ฮะดียะฮฺ) จากประชาชนท่านถอวาสิ่งเหล่านี้คอการฉอราษฎร์บังหลวง (ริชวะฮฺ)
                                                                ื
                                                                                   ้
                       (al-Nadwi, 1977 : 60)
                                 แนวทางของท่านอุมัร อิบนุ อับดิลอะซีซน าความเจริญรุ่งเรืองและความผาสุกร่มเย็นมาสู่
                       ประชาคมมุสลิมอย่างแท้จริงท่านได้ปฏบัติหน้าที่ในต าแหน่งเคาะลีฟะฮฺโดยยึดแบบอย่างจาก
                                                          ิ
                                                                    ็
                                                                                                ื่
                                                                            ิ
                       ท่านรอซูล   ท่านอบูบักรและท่านอุมัรอิบนุลคอฎฎอบวถปฏบัติของท่านได้รับความชนชอบจาก
                                                                       ิ
                                                                         ี
                       ประชาชนทั่วทั้งอาณาจักรทั้งคนมุสลิมและไม่ไชมุสลิม จนท่านถกขนานนามวาเป็นเคาะลีฟะฮฺ
                                                                 ่
                                                                                           ่
                                                                               ู
                       ผู้ทรงธรรมคนที่ 5 ในประวัติศาสตร์ของอิสลาม
                                                                           ฺ
                                                                  ั
                                 2.3.6 การบริหารจัดการซะกาตสมัยอบบาสียะฮ (123-656  ฮศ./750–1283  ค.ศ.)
                       เเละสมัยต่อมา
                                 ผู้น ารัฐในสมัยอับบาสีฮฺะฮฺเเละสมัยต่อมามิได้ให้ความสนใจในเรื่องซะกาตและการจัดเก็บ
                       ซะกาตมากนัก ด้วยสาเหตุสองประการคือ (Fuaad Abdullah, 1996 : 6)

                                                                                         ู๊
                                                                        ี
                                                                                      ี
                                                                                                    ้
                                                                                                ี
                                 1) การเติบโตของรายได้จากภาษีเคาะรอจ (ภาษที่ดิน) เเละภาษอาชร (ภาษสินคา10%)
                                                                                ั
                       ที่เรียกเก็บจากบรรดามุสลิม จนกระทั้งได้กลายเป็นรายได้หลักที่ส าคญของรัฐรัฐจึงไม่ให้ความสนใจ
                       รายได้จ านวนน้อย ๆ อย่างซะกาต
                                                                                                  ี
                                 2) กิจการซะกาตขึ้นตรงต่อกรมสรรพากร (ดีวานเคาะรอจ) เจ้าหน้าที่เก็บภาษเคาะรอจ
                       เป็นคนเดียวกันกับเจ้าหน้าที่จัดเก็บซะกาตซึ่งจะเก็บจากทรัพย์สินที่เปิดเผย เชน พืชไร่เเละผลไม้
                                                                                          ่
                       เท่านั้น ส่วนการเก็บทรัพย์สินที่ไม่เปิดเผย เชน เงิน ทอง เป็นหน้าที่ของเจ้าของทรัพย์สินเป็นผู้จ่าย
                                                            ่
                       ด้วยตนเอง
                                 เมื่อเป็นดังนี้จึงไม่พบขอมูลใดๆที่บ่งบอกถงการจัดระบบซะกาตที่ดีในภาครัฐตลอดชวง
                                                                    ึ
                                                   ้
                                                                                                       ่
                                                                                            ิ
                                                          ึ
                       สมัยของอับบาสียะฮฺในอิรัก  (ซึ่งรวมถงสมัยอันดะลูสียะฮฺในสเปน) สมัยฟาฏมียะฮฺในอียิปต์
                                                                   ี
                                                                  ้
                                                                     ิ
                       และสมัยอุษมานียะฮฺ (ออตโตมัน) ในตุรกีการใชชวตที่หรูหราฟุูงเฟูอของเหล่าผู้น าตลอดจน
                       การเเก่งเเย่งชิงดีชิงเด่นกันในทางการเมืองเป็นสาเหตุส าคญที่ท าให้รัฐไม่สามารถจัดระบบซะกาตให้
                                                                      ั
                       เป็นไปตามเจตนารมณ์ของอิสลามได้
                                 กล่าวโดยสรุปแล้วพัฒนาการการบริหารจัดการซะกาตตั้งแต่การบริหารจัดการซะกาตใน
                                                                         ี
                                                                                        ์
                       สมัยของท่านรอซูล สมัยคูลาฟาอุรรอชีดีน สมัยราชวงศ์อูมาวยะฮฺ สมัยราชวงศอับบาสียะฮฺ ได้มีการ
                       พัฒนาและให้ความส าคัญกับรูปแบบการบริหารจัดการซะกาต โดยที่ท่านรอซูลเป็นผู้ปูพื้นฐานในการ
                       จัดการซะกาต ซึ่งท่านนบนีได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่จัดเก็บรวบรวมซะกาตและผู้ท าหน้าที่เสมียน (กาติบ) มี

                       หน้าที่บันทึกรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับซะกาตอีกด้วย ท่านรอซูลจะส่งคนเหล่านั้นไปยังหัวเมืองและ
   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46